ซัมซุง เปิดตัว Samsung Galaxy S25 FE สัมผัส S Series ใหม่ ในราคาสองหมื่นต้น

   เมื่อ : 08 ก.ย. 2568

ซัมซุง เปิดตัว Galaxy S25 FE สมาชิกใหม่ล่าสุดจาก Galaxy S25 Series มาพร้อม One UI 8 ที่จะมอบประสบการณ์ในการใช้งานด้วย Galaxy AI ตัวล่าสุด ชูจุดเด่นในฐานะผู้ช่วย AI ส่วนตัว ที่มีความสามารถหลากหลายรูปแบบ รองรับทุกการใช้งาน


Galaxy S25 FE ออกแบบมาเพื่อปลดล็อกขีดความสามารถในการสร้างสรรค์แบบใหม่ ด้วยเครื่องมือแก้ไข AI ขั้นสูง เช่น Generative Edit และ Instant Slow-mo กล้องหน้าความละเอียด 12MPที่อัปเกรดใหม่ พร้อมขับเคลื่อนด้วย ProVisual Engine ที่ทรงพลังจาก AI มอบประสบการณ์เซลฟี่ที่ยอดเยี่ยม และใช้งานได้นานด้วยแบตเตอรี่ขนาด 4900mAh และ vapor chamber ที่ขยายใหญ่ขึ้นกว่า 10%[2] รวมถึงรองรับการชาร์จแบบสาย 45W[3] ช่วยให้ประสิทธิภาพการทำงานลื่นไหลและตอบสนองได้ดี ทั้งด้านการสร้างสรรค์ ความบันเทิง


เจย์ คิม รองประธานบริหารและหัวหน้าสำนักงานประสบการณ์ลูกค้า ธุรกิจ Mobile eXperienceบริษัท ซัมซุง อิเลคโทรนิคส์ กล่าวว่า “Galaxy S25 FE มีบทบาทสำคัญในฐานะประตูที่เปิดให้ผู้ใช้เข้าถึง Ecosystem ของ Galaxy AI ได้กว้างขึ้น มอบประสบการณ์สุดอัจฉริยะให้เข้าถึงได้ง่ายเพื่อกลุ่มผู้ใช้ที่หลากหลายมากขึ้น พร้อมชูจุดเด่นด้วยผู้ช่วย AI ส่วนตัวที่มาพร้อมประสบการณ์เฉพาะบุคคลที่หลากหลายมากขึ้น รวมถึงเครื่องมือถ่ายภาพและแก้ไขภาพที่ขับเคลื่อนด้วย AI ใน Galaxy S25 FE เราเชื่อว่าด้วยความสามารถเหล่านี้ จะช่วยให้ผู้คนเข้าถึงความสะดวกและความสร้างสรรค์ในชีวิตประจำวันได้มากยิ่งขึ้น”


ให้การใช้งานในชีวิตประจำวันลื่นไหลด้วย AI


Galaxy AI ใน Galaxy S25 FE ได้รับการปรับแต่งด้วย One UI 8 เป็นผู้ช่วย AI ที่ทำงานได้หลากหลายรูปแบบ ช่วยให้ผู้ใช้ก้าวเข้าสู่ยุคใหม่ของการโต้ตอบที่เป็นธรรมชาติและง่ายดาย ทั้งการสั่งงานด้วยเสียง การสัมผัส และภาพ ที่ผสานรวมกัน เพื่อทำให้งานในชีวิตประจำวันง่าย เป็นธรรมชาติ และดียิ่งขึ้นกว่าเดิม


Gemini Live[4] ช่วยให้สนทนาได้ด้วยภาพแบบเรียลไทม์ มีความสมบูรณ์มากยิ่งขึ้น ทำให้อุปกรณ์สามารถเห็นในสิ่งที่ผู้ใช้เห็น และช่วยให้ถามคำถามตามบริบทต่าง ๆ ได้ง่ายขึ้น เช่น หากต้องการคำแนะนำว่าจะพกชุดไหนไปเที่ยวครั้งต่อไป เพียงแค่ชี้กล้องไปที่ชุดสองชุดแล้วถามว่า “ชุดไหนเหมาะกับอากาศที่ไทยมากกว่ากัน?” Gemini จะตอบกลับอย่างเป็นธรรมชาติ พร้อมให้คำแนะนำอย่างชาญฉลาด


Now Bar[5] แสดงข้อมูลที่เป็นประโยชน์ในเวลาที่เหมาะสมบนหน้าจอที่ล็อก และยังสามารถปรับแต่งให้แสดงการแจ้งเตือน Live เพลง หรือโหมดต่าง ๆ ในกิจวัตรต่างได้อีกด้วย


Now Brief[6] อัปเดตข้อมูลส่วนตัวในชีวิตประจำวัน เช่น สภาพการจราจร การเตือน ปฏิทินกิจกรรม และสรุปสุขภาพ

Circle to Search with Google[7] ปรากฏไอคอนคำแนะนำ ชวนให้ผู้ใช้วงกลมไอเท็มหรือภารกิจบนหน้าจอเข้าถึงคำแนะนำได้ทันที โดยไม่ขัดจังหวะในหน้าจอหลัก


เครื่องมือเหล่านี้จะช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการสื่อสารและงานประจำวัน พร้อมการปกป้องข้อมูลด้วย Knox Enhanced Encrypted Protection สร้างพื้นที่เก็บข้อมูลเข้ารหัสสำหรับแต่ละแอป และมี Personal Data Engine ที่เก็บข้อมูลบนอุปกรณ์อย่างปลอดภัย


Knox Enhanced Encrypted Protection (KEEP)[8] สร้างสภาพแวดล้อมสำหรับจัดเก็บข้อมูลแบบเข้ารหัสเฉพาะแอปภายในพื้นที่เก็บข้อมูลที่ปลอดภัยของอุปกรณ์ ทำให้มั่นใจได้ว่าแต่ละแอปได้รับการปกป้องข้อมูลอย่าแน่นหนา มีแค่ผู้ใช้เท่านั้นที่จะเข้าถึงได้ นอกจากนี้ยังมี KEEP รองรับ Personal Data Engine (PDE) [9] ของ Galaxy เพื่อเก็บข้อมูลและความชอบของผู้ใช้งานทั้งหมดไว้บนอุปกรณ์ และถูกปกป้องโดย Knox Vault ทำให้โซลูชันเหล่านี้ช่วยสร้างความมั่นคงปลอดภัยและความเป็นส่วนตัวในยุคที่เทคโนโลยีดิจิทัลพัฒนาอย่างรวดเร็ว


ตอบโจทย์ความคิดสร้างสรรค์ในทุกมิติ


Galaxy S25 FE ยังมอบประสบการณ์กล้องระดับพรีเมียมด้วยฟีเจอร์ใหม่ที่ขับเคลื่อนด้วย AI จาก ProVisual Engine และกล้องหน้าที่อัปเกรดเป็น 12MP[10] สามารถจับภาพเซลฟี่ได้สวยถูกใจ นอกจากนี้ยังอัปเกรด Nightography ด้วยโหมดลดสิ่งรบกวน หรือ Low noise mode ช่วยเพิ่มคุณภาพของภาพกลางคืน ในขณะที่ฟีเจอร์ Super HDR ในวิดีโอจะแสดงสีสันและความคมชัดเสมือนจริงในทุกเฟรม รวมถึงมี Photo Assist ช่วยเพิ่มความแม่นยำในการแก้ไขภาพบนอุปกรณ์อย่างง่ายดาย


Generative Edit[11] สามารถตรวจจับผู้คนในพื้นหลังของภาพถ่ายโดยอัตโนมัติและแนะนำสิ่งที่ควรลบออกโดยไม่ต้องเลือกหรือตัดต่อด้วยตัวเอง ในขณะที่ Portrait Studio[12] เปิดโอกาสให้ผู้ใช้สร้างอวตารที่มีสีหน้าเหมือนจริงมากขึ้น


Instant Slow-mo[13] ช่วยให้ผู้ใช้ย้อนชมวิดีโอโปรดในรูปแบบสโลว์โมชัน


Audio Eraser[14] เครื่องมือสำหรับการลบเสียงรบกวนในวิดีโอที่ทำได้สะดวกสบาย ด้วยการแยกเสียงเฉพาะ เช่น เสียงพูด เพลง เสียงลม เสียงธรรมชาติ เสียงฝูงชน และเสียงแทรกพื้นหลัง ให้ผู้ใช้ควบคุม ปรับแต่งได้อย่างแม่นยำว่าจะลดหรือกำจัดเสียงใดออกไป ส่วน Auto Trim[15] บน Galaxy S25 FE ช่วยให้กระบวนการตัดต่อวิดีโอเป็นเรื่องง่ายขึ้น โดยจะเลือกช่วงเวลาที่ดีที่สุดจากวิดีโอของผู้ใช้โดยอัตโนมัติ


ประสิทธิภาพที่เชื่อถือได้ ในดีไซน์ล้ำสมัย


ตั้งแต่การทำงานทั่วไปไปจนถึงงานสร้างสรรค์ Galaxy S25 FE ก็สามารถปรับแต่งทุกการใช้งานให้มีประสิทธิภาพสูงสุด พร้อมมอบประสิทธิภาพที่เชื่อถือได้ ไม่ว่าจะสตรีมมิ่ง ทำงานหลายแอปพร้อมกัน หรือแก้ไขงาน


แบตเตอรี่ขนาด 4900mAh รองรับการใช้งานในชีวิตประจำวันได้อย่างยาวนาน พร้อมรองรับการชาร์จแบบสายที่ 45W ที่ช่วยให้ชาร์จเร็วและใช้งานได้ยาวนานขึ้น[16]


การประมวลผล AI มีความลื่นไหล ด้วย vapor chamber[17] ขนาดใหญ่ขึ้นกว่า 10% เพื่อจัดการความร้อนอย่างมีประสิทธิภาพ


ด้านดีไซน์ของ Galaxy S25 FE สามารถสะท้อนเอกลักษณ์ของซีรีส์ Galaxy S25 ได้เป็นอย่างดี ด้วยตัวเครื่องที่บางและน้ำหนักเบา ในดีไซน์ที่ทันสมัย


หน้าจอ Dynamic AMOLED 2X ขนาด 6.7 นิ้ว[18] พร้อมรีเฟรชเรต 120Hz ให้ภาพลื่นไหล ชวนดื่มด่ำ และกรอบ Armor Aluminum ที่แข็งแรง ทนทาน พร้อมสัมผัสที่ละเอียดและเรียบร้อยยิ่งขึ้น


Galaxy S25 FE มีดีไซน์ตามแบบฉบับ Galaxy S Series พร้อมสีสันสดใสและมีชีวิตชีวาให้เลือก ได้แก่ สี Icyblue สี Jetblack สี Navy และ สี White[19]


รองรับการอัปเกรดระบบปฏิบัติการถึง 7 รุ่น และอัปเดตความปลอดภัย 7 ปี เพื่อประสิทธิภาพที่เชื่อถือได้และการใช้งานที่ยาวนาน[20]


หากต้องการเพิ่มอรรถรสในการรับชมภาพสวยเข้ากับเสียงคุณภาพสูง สามารถจับคู่ Galaxy S25 FE กับ Galaxy Buds3 FE รุ่นใหม่ล่าสุด เพื่อเพลิดเพลินกับการเชื่อมต่อที่ราบรื่นและประสบการณ์ความบันเทิงบนสมาร์ทโฟนแบบเต็มรูปแบบ


สำหรับ One UI 8 จะพร้อมใช้งานในอุปกรณ์อื่น ๆ เพิ่มขึ้น รวมถึง Galaxy S25 Series ทั้งหมด โดยจะเริ่มอัปเดตตั้งแต่เดือนนี้[21]


การวางจำหน่าย


Samsung Galaxy S25 FE จะเริ่มวางจำหน่ายในประเทศไทย วันที่ 5 กันยายน 2568 พร้อมสิทธิ์ใช้งาน Google AI Pro ฟรีเป็นเวลา 6 เดือน[22] ผ่านเว็บไซต์ Samsung Samsung Experience Store และร้านค้าที่ร่วมรายการทั่วประเทศ มีให้เลือก 4 สี[25] ได้แก่ สี Navy สี Jatblack สี White และสี Icyblue ในราคา


Galaxy S25 FE 8 128GB ราคา 22900 บาท

Galaxy S25 FE 8 256GB ราคา 25900 บาท