ศูนย์วิจัยกสิกรไทย คาดเศรษฐกิจไทย ปี 69 โต 1.6%

   เมื่อ : 10 ธ.ค. 2568

นายบุรินทร์ อดุลวัฒนะ กรรมการผู้จัดการ และ Chief Economist บริษัท ศูนย์วิจัยกสิกรไทย จำกัด เปิดเผยว่า ในปี 2569 องค์การการค้าโลก (WTO) คาดการณ์ว่า การค้าโลกปี 2569 มีแนวโน้มชะลอตัวลง อยู่ที่ 0.5% จากปี 2568 ที่ขยายตัวได้ 2.4% เนื่องจากมาตรการภาษีของทรัมป์ได้ส่งผลต่อต้นทุนการค้า และ เพิ่มความไม่แน่นอน โดยในปี 2568 การค้าโลกได้อานิสงส์จากการเร่งส่งออกของภาคธุรกิจก่อนที่ภาษีเริ่มบังคับใช้จริงในเดือนสิงหาคม ประกอบกับ แรงหนุนจากการส่งออกสินค้าเกี่ยวกับเทคโนโลยี AI ที่พุ่งแรง โดยเฉพาะการส่งออกจากเอเชียไปสหรัฐฯ ตามการลงทุนใน Data Center และ โครงสร้างพื้นฐาน AI ของสหรัฐฯ


สวนทางกับสินค้าประเภทอื่นที่ไม่ใช่ AI (Non-AI) ที่ชะลอตัวลงอย่างชัดเจน ในขณะที่การส่งออกจากจีนไปเอเชียยังเติบโตได้ดีต่างกับการส่งออกไปสหรัฐฯ อย่างไรก็ดี ธุรกิจในประเทศจีนยังเผชิญกับการแข่งขันรุนแรงทั้งด้านกำลังการผลิต และ สงครามราคา (Anti-Involution) ซึ่งกดดันการทำกำไรของภาคธุรกิจในจีนอย่างต่อเนื่อง

นางสาวณัฐพร ตรีรัตน์ศิริกุล รองกรรมการผู้จัดการ บริษัท ศูนย์วิจัยกสิกรไทย จำกัด เปิดเผยว่า คาดอัตราการเติบโตของเศรษฐกิจไทยปี 2569 อยู่ที่ 1.6% เทียบกับปี 2568 ที่คาดว่าจะขยายตัวที่ 2.0% โดยส่งออกสินค้าของไทยในปี 2569 คาดว่าจะหดตัว -1.2% จากปี 2568 ที่เติบโต 11% ส่งผลทำให้แรงขับเคลื่อนที่สำคัญของเศรษฐกิจไทยลดลง ในขณะที่การท่องเที่ยวที่จะยังฟื้นตัวกลับมาได้ไม่เต็มที่ โดยคาดจำนวนนักท่องเที่ยว ปี 2569 อยู่ที่ 34.1 ล้านคน เพิ่มขึ้น จากปี 2568 ที่ 32.9 ล้านคน


ในขณะที่การบริโภคของครัวเรือนที่ยังเป็นแรงขับเคลื่อนหลักของเศรษฐกิจมีแนวโน้มชะลอลง ส่วนหนึ่งจากแรงหนุนจากการใช้จ่าย และมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจของภาครัฐอาจลดลงตามข้อจำกัดทางการคลัง โดยคาด กนง. ลดดอกเบี้ยนโยบายต่ออีก 1 ครั้ง ในปี 2569 นอกจากนี้ ยังต้องติดตามความไม่แน่นอนทางการเมือง โดยเฉพาะหลังการเลือกตั้งด้วยเช่นกัน


"การลงทุนภาครัฐ คาดชะลอในไตรมาส 1/69 ขึ้นกับการจัดตั้งรัฐบาลหลังการเลือกตั้ง โดบหากจัดตั้งรัฐบาลได้เร็ว ก็จะทำให้การเบิกจ่ายงบประมาณได้เร็วขึ้น ซึ่งตอนนี้เม็ดเงินที่จะนำมาใช้กระตุ้นเศรษฐกิจเพิ่มเติมมีจำกัด โดยมีวงเงืนเหลือใช้ 65000 ล้านบาท ภายใต้สมมุติฐานที่ภาครัฐไม่ได้กู้เงินเพิ่ม เพราะพื้นที่การคลังที่เหลือน้อยลง"นางสาวณัฐพร กล่าว


นางสาวเกวลิน หวังพิชญสุข รองกรรมการผู้จัดการ บริษัท ศูนย์วิจัยกสิกรไทย จำกัด เปิดเผยว่า ทิศทางธุรกิจปี 2569 ยังอยู่ท่ามกลางความท้าทาย การชะลอลงของคำสั่งซื้อทั้งในและ ต่างประเทศ รวมถึงการแข่งขันกับสินค้านำเข้ากดดันการผลิตต่อเนื่อง ทำให้ดัชนีผลผลิตอุตสาหกรรม (MPI) เสี่ยงหดตัวเป็นปีที่ 4


ส่วนธุรกิจบริการส่วนใหญ่ (เช่น ค้าปลีก ร้านอาหาร การแพทย์ ก่อสร้าง เป็นต้น) คาดเติบโตชะลอลง ในขณะเดียวกันต้นทุนวัตถุดิบบางอย่างยังสูง และ ค่าแรงอาจปรับขึ้น ทำให้การสร้างรายได้สุทธิจะยากขึ้นภายใต้ศักยภาพตลาดที่โตต่ำ ธุรกิจจึงยังต้องเน้นการเพิ่มผลิตภาพ(Productivity) ปรับตัวรับเทรนด์อย่างแตกต่าง และ มองหาตลาดใหม่


นางสาวธัญญลักษณ์ วัชระชัยสุรพล รองกรรมการผู้จัดการ บริษัท ศูนย์วิจัยกสิกรไทย จำกัด เปิดเผยว่า สินเชื่อของระบบธนาคารพาณิชย์จดทะเบียนในประเทศ (ระบบแบงก์ไทย) มีแนวโน้มหดตัวลงต่อเนื่องในปี 2569 ที่ -0.7% โดยหดตัวต่อเนื่องเป็นปีที่ 3 ติดต่อกัน จากปี 2568 ที่หดตัว -2.3% ซึ่งล่าสุดสินเชื่อในเดือนต.ค. 68 หดตัว -5%YoY สอดคล้องกับภาพการชะลอตัวของกิจกรรมทางเศรษฐกิจ และธุรกิจ


โดยสินเชื่อธุรกิจเอสเอ็มอี และ สินเชื่อรายย่อย ทั้งในส่วนของสินเชื่อบ้าน และ สินเชื่อเช่าซื้อ จะยังคงหดตัวตามข้อจำกัดด้านรายได้ และ อำนาจซื้อของภาคครัวเรือน


"สินเชื่อยังคงหดตัวต่อเนื่อง และ จะหดตัวต่อเนื่องเป็นปีที่ 3 ติดต่อกัน โดยสินเชื่อเอสเอ็มอียังหดตัว -4% ในปีหน้า จากปีนี้หดตัว -5.7% และ สินเชื่อรายย่อย โดยเฉพาะสินเชื่อบ้าน และ รถ ยังหดตัว ซึ่งสินเชื่อรายย่อยปีนี้หดตัว -1.2% และ ปีหน้าหดตัว -1% ส่วนสินเชื่อรายใหญ่ยังไปได้"นางสาวธัญญลักษณ์ กล่าว


สำหรับหนี้ครัวเรือนในปี 2569 มีแนวโน้มชะลอลงมาที่ระดับไม่เกิน 85% ต่อจีดีพี ยังถือว่าอยู่ในระดับที่ค่อนข้างสูง ซึ่งยังต้องติดตามความสามารถในการชำระคืนหนี้ของลูกหนี้ รวมถึงทิศทางคุณภาพสินเชื่อในปี 2569 ด้วยเช่นกัน


โดยหนี้ที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้(NPL) ปี 2569 อยู่ที่ 2.8-2.97% จากปี 2568 ที่ 2.8-2.85% ซึ่งสินเชื่อที่ต้องติดตามใกล้ชิด คือ สินเชื่อเอสเอ็มอี และ สินเชื่อรายย่อย โดยเฉพาะสินเชื่อที่ไม่มีหลักประกัน ทั้งบัตรเครดิต และ สินเชื่อส่วนบุคคล