SM โชว์ Q1 กวาดรายได้ 369 ลบ. พอร์ตสินเชื่อรวมพุ่งแตะ 2673 ลบ.
บมจ.สตาร์ มันนี่ หรือ SM โชว์ผลประกอบการไตรมาส 1/2567 มีรายได้รวม 369.20 ล้านบาท เติบโต 17 % จากช่วงเดียวกันของปีก่อน และกำไรสุทธิ 19.47 ล้านบาท เติบโต 9% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน หลังธุรกิจเช่าซื้อสินค้าโดยเฉพาะโทรศัพท์มือถือโตแรง อีกทั้งยอดปล่อยสินเชื่อดีมานด์พุ่ง ดันพอร์ตสินเชื่อรวมพุ่งแตะ 2673.9 ล้านบาท เติบโต 14% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน
นายชูศักดิ์ วิวัฒน์วงศ์เกษม กรรมการผู้จัดการ บริษัท สตาร์มันนี่ จำกัด (มหาชน) หรือ SM ฉายภาพการเติบโตของผลการดำเนินงานในไตรมาส 1/2567 ที่เติบโตสูงขึ้น หลังจากได้ปรับกลยุทธ์เสริมแกร่งธุรกิจการขายสินค้าและสินเชื่อเช่าซื้อ โดยใช้เทคโนโลยีที่ช่วยวิเคราะห์ออกแบบผลิตภัณฑ์สินเชื่อให้เหมาะสมกับคุณสมบัติ และความสามารถในการชำระหนี้ของลูกค้า รวมถึงเทคโนโลยีที่ช่วยในการบริหารงานติดตามชำระหนี้
ทั้งนี้ ไตรมาส 1/2567 ที่ผ่านมา บริษัทฯ มีรายได้จากการขายสินค้าและบริการ จำนวน 207.36 ล้านบาท เติบโต 21% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน รวมถึงรายได้ดอกเบี้ยจากธุรกิจสินเชื่อที่เติบโต 12% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน โดยมีรายได้ดอกเบี้ยจากสัญญาเช่าซื้อ จำนวน 21.28 ล้านบาท รายได้ดอกเบี้ยจากการให้กู้ยืม จำนวน 124.37 ล้านบาท รวมถึงรายได้ค่าธรรมเนียมและบริการ จำนวน 4.09 ล้านบาท และรายได้อื่น จำนวน 12.10 ล้านบาท
สำหรับรายได้จากการขายที่เพิ่มขึ้นดังกล่าว มาจากการจำหน่ายสินค้าในทุกประเภท โดยเน้นสินค้าโทรศัพท์มือถือเป็นหลัก เนื่องจากมีระบบล็อกโทรศัพท์เข้ามาช่วยป้องกันหนี้ด้อยคุณภาพที่อาจเกิดขึ้นในอนาคต ที่่สำคัญยังช่วยให้ผลการจัดเก็บชำระหนี้มียอดที่ดีขึ้นชัดเจน ขณะที่รายได้ดอกเบี้ยจากการให้กู้ยืม เพิ่มขึ้นตามการเติบโตของพอร์ตสินเชื่อที่เพิ่มขึ้น จากการวางกลยุทธ์การขยายสาขาในช่วงที่ผ่านมา ให้ครอบคลุมพื้นที่ในภาคตะวันออกมากกว่า 90 สาขา ซึ่งถือพื้นที่ที่เป็นแหล่งอุตสาหกรรมที่มีการจ้างงานสูง รวมถึงกลยุทธ์ในการเพิ่มช่องทางการขาย และเจาะกลุ่มลูกค้าใหม่ ๆ เพื่อต่อยอดธุรกิจ
อย่างไรก็ตาม บริษัทฯ มีผลขาดทุนด้านเครดิตที่คาดว่าจะเกิดขึ้น จำนวน 28.64 ล้านบาท จากงวดเดียวกันของปีก่อน อยู่ที่ 16 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 12.64 ล้านบาท หรือเพิ่มขึ้น 79 % เป็นผลมาจากการเติบโตของพอร์ตลูกหนี้ และจากการไหลตกชั้นเป็นหนี้ด้อยคุณภาพของลูกหนี้รายใหญ่ 1 ราย ซึ่งบริษัทกำลังเร่งดำเนินการติดตามอย่างใกล้ชิด คาดว่าอยู่ในวิสัยที่สามารถบริหารจัดการได้ ทั้งนี้คุณภาพหนี้โดยรวม ยังคงอยู่ในเกณฑ์ปกติ และบริษัทฯ ยังคงเน้นให้ความสำคัญกับการขยายการเติบโตของธุรกิจ ควบคู่กับมาตรการควบคุมคุณภาพสินเชื่ออย่างระมัดระวัง จึงทำให้ผลการดำเนินงานในส่วนของกำไรสุทธิยังคงเติบโตได้ดี
“ผลประกอบการงวดไตรมาส 1/2567 เติบโตตามแผน เป็นผลมาจากธุรกิจการขายสินค้าและสินเชื่อเช่าซื้อ รวมถึงการให้บริการสินเชื่อประเภทต่างๆ ที่มีดีมานด์สูงและมีการปรับ yield ของดอกเบี้ยเช่าซื้อให้เพิ่มสูงขึ้น จึงทำให้มุมมองต่อผลการดำเนินงานงวดไตรมาส 2/2567 มีแนวโน้มจะเติบโตอย่างต่อเนื่อง” นายชูศักดิ์ กล่าว
สำหรับแผนธุรกิจบริษัทฯ ยังคงมุ่งเน้นการเติบโตของยอดขาย และสินเชื่อเช่าซื้อเป็นหลัก โดยเฉพาะธุรกิจการขายและเช่าซื้อเครื่องใช้ไฟฟ้า โทรศัพท์มือถือ และคอมพิวเตอร์ ซึ่งถือเป็นสินค้าที่มีความจำเป็นในครัวเรือน การใช้ชีวิต การทำงานการเรียน และมีความต้องการสูง โดยมีแผนการที่จะเปิดสาขาและช่องทางการขายใหม่ๆ เพิ่มเติมในพื้นที่ภาคตะวันออกในช่วงครึ่งปีหลัง ขณะเดียวกันจะรุกธุรกิจสินเชื่อ Solar Rooftop ที่ได้ร่วมมือกับพันธมิตรเพื่อขยายฐานลูกค้า และขยายสินเชื่อให้ครอบคลุมมากขึ้น
นอกจากนี้ บริษัทอยู่ในช่วงของการพัฒนาเทคโนโลยีที่มีประสิทธิภาพสูงเพิ่มเติม เพื่อจะนำมาใช้เป็นเครื่องมือสำคัญในการขยายธุรกิจ และเพิ่มขีดความสามารถในการให้บริการด้านการขายและการให้สินเชื่อ เทคโนโลยีดังกล่าวจะช่วยในการพิจารณาอนุมัติสินเชื่อ และช่วยในการบริหารจัดการด้านงานติดตามหนี้ให้มีประสิทธิภาพ และช่วยให้ NPL อยู่ในระดับที่เหมาะสมได้ดีมากยิ่งขึ้น