RT เผยทิศทาง Q2 โตต่อเนื่อง เตรียมโกยงาน 4000 ลบ. ดัน Backlog แข็งแกร่ง
RT เผยทิศทางธุรกิจไตรมาส 2/67 โตต่อเนื่อง รับรู้รายได้โครงการก่อสร้างตามแผน มุ่งพัฒนาประสิทธิภาพการบริหารงาน ตั้งเป้าหมายลดต้นทุนการก่อสร้าง 5% เดินหน้าประมูลโครงการภาครัฐ-เอกชน มั่นใจโกยงานเติมพอร์ต 4000 ล้านบาท ดัน Backlog แข็งแกร่ง ปัจจัยภาคก่อสร้างเติบโตหนุน ด้านผลประกอบการไตรมาส 1/67 รายได้รวม 977 ล้านบาท กำไรสุทธิ 44 ล้านบาท แจ้งผู้ถือหุ้นใช้สิทธิ RO สัดส่วน 4:1 ราคา 0.55 บาท/หุ้น มูลค่ารวมไม่เกิน 151.51 ล้านบาท ระหว่างวันที่ 15-21 พ.ค. 67
นายชวลิต ถนอมถิ่น ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ไร้ท์ทันเน็ลลิ่ง จำกัด (มหาชน) หรือ RT ผู้เชี่ยวชาญพิเศษด้านวิศวกรรมโยธา งานขุดเจาะอุโมงค์ และ ธรณีเทคนิคครบวงจร เปิดเผยว่า ทิศทางธุรกิจไตรมาส 2/2567 บริษัทคาดว่าจะสามารถสร้างการเติบโตได้อย่างต่อเนื่อง จากการรับรู้รายได้โครงการก่อสร้างตามแผนงาน ซึ่งปัจจุบันบริษัทมีงานในมือที่รอรับรู้รายได้ จำนวน 7902 ล้านบาท พร้อมรับรู้รายได้ถึงปี 2570
ขณะเดียวกัน บริษัทวางแผนพัฒนาการดำเนินงานของบุคลากรให้ทำงานอย่างเต็มประสิทธิภาพ ลดขั้นตอนที่ซ้ำซ้อน และ ส่งมอบโครงการพร้อมรับรู้รายได้ตามแผน อีกทั้งมุ่งเน้นการเพิ่มความสามารถในการทำกำไรให้อยู่ในระดับที่ดีต่อเนื่อง โดยการวางแผนการจัดซื้อวัสดุก่อสร้างให้เพียงพอต่อความต้องการใช้งาน รวมทั้งมีเป้าหมายการลดต้นทุนด้านการบริหารจัดการภายในโครงการก่อสร้างลง 5%
“ปัจจัยที่จะส่งผลต่อการขยายตัวของภาคอุตสาหกรรมก่อสร้างมากที่สุดคงหนีไม่พ้นการที่ภาครัฐอนุมัติงบประมาณปี 2567 จากข้อมูลของสำนักวิจัยด้านเศรษฐกิจต่างๆ คาดว่าจะมีโครงการก่อสร้างที่เปิดประมูลในปี 2567 ประมาณ 1.7 แสนล้านบาท ซึ่งเป็นโอกาสที่บริษัทจะเข้ารับงานที่เกี่ยวข้อง โดยมีแผนการเข้าประมูลงานประเภทอุโมงค์ มูลค่าไม่น้อยกว่า 4000 ล้านบาท
ทั้งนี้ บริษัทมีความมั่นใจว่าจะมีโอกาสในการเข้ารับงาน เนื่องจากเป็นผู้รับเหมาที่มีความเชี่ยวชาญเฉพาะด้านที่มีจำนวนน้อยราย พร้อมด้วยบุคลากรและเครื่องจักรสำหรับก่อสร้างเฉพาะงานอุโมงค์และงานที่เกี่ยวข้อง อีกทั้งความยืดหยุ่นในการเข้ารับงานทั้งการเป็นผู้รับเหมาหลัก และ ผู้รับเหมาช่วง อย่างไรก็ตามบริษัทยังคงมุ่งเน้นการเข้ารับงานโครงการที่สร้างรายได้ และสะท้อนราคาต้นทุนก่อสร้างที่เป็นปัจจุบัน เพื่อสร้างการเติบโตที่แข็งแกร่ง และเพิ่มความสามารถในการทำกำไรให้อยู่ในระดับที่ดี” นายชวลิต กล่าว
สำหรับผลประกอบการไตรมาส 1/2567 บริษัทมีรายได้รวม 977 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากช่วงเดียวกันของปีก่อนที่มีรายได้รวม 627 ล้านบาท จำนวน 350 ล้านบาท หรือเพิ่มขึ้น 56% และ มีกำไรสุทธิ 44 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากช่วงเดียวกันของปีก่อนที่ขาดทุนสุทธิ 38 ล้านบาท อีกทั้งอัตรากำไรขั้นต้นของบริษัทปรับตัวดีขึ้นที่ระดับ 16.4% และ อัตรากำไรสุทธิที่ระดับ 4.5%
นอกจากนี้ บริษัทอยู่ระหว่างการเสนอขายหุ้นสามัญเพิ่มทุนจัดสรรให้กับผู้ถือหุ้นเดิมของบริษัทตามสัดส่วนการถือหุ้น (RO) ไม่เกิน 275.47 ล้านหุ้น มูลค่าหุ้นที่ตราไว้หุ้นละ 0.50 บาท ในสัดส่วน 4:1 ราคาหุ้นละ 0.55 บาท คิดเป็นมูลค่ารวมไม่เกิน 151.51 ล้านบาท เพื่อเสริมสร้างความพร้อมทางด้านการเงินเพื่อรองรับการเติบโตของธุรกิจในอนาคต โดยกำหนดวันจองซื้อและรับชำระเงินค่าหุ้นสามัญเพิ่มทุนในระหว่างวันที่ 15-21 พฤษภาคม 2567