สำนักงานทรัพย์สินฯ ร่วมกับ ไทยพาณิชย์ ชวนร้านค้ารับชำระเงินผ่าน QR Payment แอปแม่มณี รองรับนักท่องเที่ยวไทย-ต่างชาติ

   เมื่อ : 07 มิ.ย. 2567

สำนักงานทรัพย์สินพระมหากษัตริย์ ร่วมกับ ธนาคารไทยพาณิชย์ เดินหน้ายกระดับตลาดชุมชน โดยการนำเทคโนโลยีทางการเงินเข้ามาสนับสนุนชุมชนและผู้ประกอบการรายย่อย ให้มีความพร้อมต้อนรับนักท่องเที่ยวไทย-ต่างชาติ โดยมี นางสาวอภิรดี เงินวิจิตร รองผู้อำนวยการ และนางสุนีย์ สะเทือนวงษา ผู้ช่วยผู้อำนวยการ สำนักงานทรัพย์สินพระมหากษัตริย์ ร่วมกับนายคณบดี พลยะศรีสวัสดิ์ ผู้ช่วยผู้จัดการใหญ่ ผู้บริหารฝ่าย Corporate Banking 1 Client Coverage 1.5 และนางสาวปิยมาศ ศิริวัฒน์ ผู้อำนวยการผู้บริหารฝ่าย Solution Sales and Specialist  ธนาคารไทยพาณิชย์ ร่วมเปิดตัวความร่วมมือเมื่อเร็วๆ นี้ ณ พื้นที่บริเวณท่าช้าง

 

ล่าสุด ส่งเสริมสังคมไร้เงินสดในตลาดชุมชน ด้วยการเชิญชวนร้านค้าบุคคลธรรมดาร่วมสมัครเป็นร้านค้าแม่มณี เพื่อให้สามารถรองรับการชำระเงินในรูปแบบดิจิทัลแทนการรับเงินสด ผ่าน “แอปพลิเคชันแม่มณี” ผู้ช่วยร้านค้ามืออาชีพ โซลูชันทางการเงินที่ตอบโจทย์พ่อค้าแม่ค้ายุคใหม่ ช่วยให้ร้านค้าสามารถสร้าง QR จากแอปพลิเคชันแม่มณีได้ด้วยตนเอง เพิ่มทางเลือกในการชำระเงินให้กับลูกค้าที่ไม่เพียงแต่รองรับการใช้จ่ายของนักท่องเที่ยวไทย แต่ยังรับชำระเงินจากนักท่องเที่ยวต่างชาติได้ ด้วยบริการ Cross- Border QR Payment สามารถรับชำระผ่านการสแกนจาก Mobile Banking Application ของ 7 ประเทศ ได้แก่ อินโดนีเซีย ฮ่องกง มาเลเซีย สิงคโปร์ กัมพูชา เวียดนาม เกาหลีใต้ และสามารถรับชำระผ่าน WeChatPay และ Alipay สำหรับนักท่องเที่ยวชาวจีนอย่างไร้รอยต่อ โดยนำร่องที่ตลาดท่าช้างวังหลวง ย่านชุมชนการค้าเก่าแก่ริมน้ำเจ้าพระยา รวมถึงตลาดชุมชนใกล้กรุงเทพฯ อาทิ ตลาดริมน้ำ จังหวัดเพชรบุรี และ ตลาดทรัพย์สิน (ท่าไข่) จังหวัดฉะเชิงเทรา เป็นต้น ซึ่งมีร้านค้าให้ความสนใจเข้าร่วมเป็นร้านค้าแม่มณีกว่า 50 ร้าน ก่อนเดินหน้าขยายสู่แหล่งชุมชนอื่น ๆ ทั่วประเทศในอนาคต เพื่อสร้างความเชื่อมั่นให้นักท่องเที่ยวไทยและต่างชาติ ด้วยโซลูชันทางการเงินที่ตอบโจทย์ทุกการทำธุรกิจ มุ่งผลักดันให้ร้านค้าเติบโตอย่างยั่งยืน

 

โดยความร่วมมือครั้งนี้ ธนาคารหวังเป็นอย่างยิ่งว่าจะช่วยให้การค้าขายภายในตลาดชุมชนมีความคล่องตัว สะดวกสบายและปลอดภัยมากยิ่งขึ้น ซึ่งมีส่วนสำคัญในการสร้างความเข้มแข็งให้กับเศรษฐกิจฐานรากของประเทศ