TIDLOR สถาบันการเงินแห่งแรก ที่ได้รับเงินทุนจาก ADB สถาบันการเงินระดับเอเชีย
บริษัท เงินติดล้อ จำกัด (มหาชน) หรือ TIDLOR นำโดย คุณปิยะศักดิ์ อุกฤษฎ์นุกูล (ขวา) กรรมการผู้จัดการใหญ่ ได้ร่วมลงนามในสัญญาสนับสนุนทางการเงินกับ คุณซูซานน์ กาบูรี่ (ซ้าย) ผู้อำนวยการสำนักปฏิบัติการภาคเอกชน ธนาคารพัฒนาเอเชีย (Asian Development Bank: ADB) มูลค่า 150 ล้านดอลลาร์ หรือราว 5.5 พันล้านบาท เพื่อใช้สำหรับการให้สินเชื่อแก่ผู้ประกอบกิจการขนาดกลาง ขนาดย่อม และรายย่อย (MSMEs) ที่ดำเนินกิจการโดยสตรี และกลุ่มเกษตรกร ในพื้นที่ต่างจังหวัดของประเทศไทย ซึ่งถือเป็นกลุ่มผู้ใช้สินเชื่อที่อาจไม่สามารถเข้าถึงแหล่งเงินทุนจากธนาคารโดยทั่วไปได้ ซึ่งสอดคล้องกับเจตนารมณ์ในการดำเนินธุรกิจเพื่อสร้างโอกาสทางการเงินให้กับกลุ่มผู้มีรายได้น้อย ผู้ประกอบอาชีพอิสระ (Underbanked) ที่บริษัทฯ ยึดมั่นมาโดยตลอดรวมถึงมีการให้ความช่วยเหลือทางเทคนิคเพื่อพัฒนากรอบการเงินเพื่อสังคม (Social Finance Framework) จาก ADB อีกด้วย
คุณซูซานน์ กาบูรี่ กล่าวว่า “กลุ่มผู้ประกอบกิจการ MSMEs โดยเฉพาะในพื้นที่ต่างจังหวัดของประเทศไทย ที่มีความยากลำบากในการเข้าถึงเข้าถึงแหล่งเงินทุนจากธนาคาร หลายคนต้องหันไปพึ่งพาแหล่งเงินทุนนอกระบบที่คิดดอกเบี้ยสูง และถูกเอาเปรียบ ซึ่งการสนับสนุนจาก ADB ในครั้งนี้ จะช่วยให้ผู้ประกอบการเหล่านี้สามารถเข้าถึงแหล่งเงินทุนในระบบที่มีมาตรฐาน น่าเชื่อถือจาก “เงินติดล้อ” เพื่อเสริมสภาพคล่องให้กิจการของตนเองได้ดียิ่งขึ้น ซึ่งจะมีส่วนสำคัญในการช่วยขับเคลื่อนเศรษฐกิจไทย และยังเป็นการส่งเสริมการเข้าถึงบริการทางการเงินที่ครอบคลุมและยั่งยืนต่อไป”
คุณปิยะศักดิ์ กล่าวว่า “รู้สึกภูมิใจเป็นอย่างยิ่งที่ บมจ.เงินติดล้อ (TIDLOR) เป็นสถาบันการเงินแห่งแรกในประเทศไทย ที่ได้รับการสนับสนุนทางด้านการเงินเพื่อสังคม จาก ADB และเราขอขอบคุณสำหรับการสนับสนุนดังกล่าว โดยเราจะมุ่งมั่นส่งมอบบริการทางการเงินที่มีความยุติธรรม มีความรับผิดชอบ และโปร่งใส เพื่อให้กลุ่มผู้ประกอบการ MSMEs สามารถเข้าถึงแหล่งเงินทุนที่เป็นธรรมได้มากขึ้น”
ADB เป็นสถาบันการเงินที่มีจุดมุ่งหมาย เพื่อสนับสนุนระบบเศรษฐกิจ และการพัฒนาของประเทศแถบเอเชียและแปซิฟิก ผ่านการให้เงินกู้และการสนับสนุนด้านเทคนิค ก่อตั้งขึ้นในปี พ.ศ.2509 โดยความช่วยเหลือของสหประชาชาติ มีประเทศเข้าร่วมก่อตั้ง 31 ประเทศ จนถึงปัจจุบัน (พ.ศ.2567) มีประเทศสมาชิกทั้งสิ้น 68 ประเทศ เป็น 49 ประเทศในภูมิภาค และ 19 ประเทศจากพื้นที่อื่น