SA ออกหุ้นกู้ใหม่ 3 ชุด ชูดอกเบี้ยสูงสุด 7.50%
บมจ.ไซมิส แอสเสท (SA) เตรียมเสนอขายหุ้นกู้ ครั้งที่ 3/2567 จำนวน 3 ชุด แบบมีประกันและไม่มีประกัน โดยมีอายุ 2 ปี อายุ 3 ปี และอายุ 1 ปี 1 เดือน อัตราดอกเบี้ย 7% 7.50% และ 7.25% ตามลำดับโดยจ่ายทุกๆ 3 เดือน คาดจะเปิดจองซื้อระหว่างวันที่ 19 23-24 กรกฎาคม 2567 ระดมทุนชำระหุ้นกู้ชุดเก่า อีกทั้งรองรับแผนพัฒนาโครงการอสังหาฯ และเป็นเงินทุนหมุนเวียนภายในกลุ่มบริษัท ด้านซีเอฟโอ “รีย์ฐิตา อักษรจิรารัตน์” ระบุหุ้นกู้ทุกรุ่นของบริษัทฯ แต่ละครั้งจัดสรรจำนวนตามความเหมาะสมกับแผนขยายธุรกิจ ทำให้ได้ใช้เงินตรงตามวัตถุประสงค์ และสามารถจ่ายดอกเบี้ยได้ตรงตามกำหนดเวลาทุกครั้ง อีกทั้งผลตอบแทนสูงอ้างอิงจาก MLR (Minimum Loan Rate) ซึ่งเป็นอัตราดอกเบี้ยชั้นดีของลูกค้ารายใหญ่ของธนาคาร สะท้อนประสิทธิภาพในการบริหารสภาพคล่องทางการเงินที่แข็งแกร่ง พร้อมกางแผนผสานนวัตกรรมเพื่อการอยู่อาศัยมุ่งสู่ "THE SUSTAINOVATIVE LIVING" ตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์คนรุ่นใหม่ ตอกย้ำนโยบายสีเขียว และตั้งเป้ารายได้ปี 67 อยู่ที่ 5000-7000 ล้านบาท สร้างสถิติสูงสุดใหม่
นางสาวรีย์ฐิตา อักษรจิรารัตน์ ประธานเจ้าหน้าที่สายงานการเงินและบัญชี บริษัท ไซมิส แอสเสท จำกัด (มหาชน) (SA) เปิดเผยว่า บริษัทฯ เตรียมเสนอขายหุ้นกู้ ชนิดระบุชื่อผู้ถือ ประเภทไม่ด้อยสิทธิ มีประกัน มีผู้แทนผู้ถือหุ้นกู้ และผู้ออกหุ้นกู้มีสิทธิไถ่ถอนหุ้นกู้ก่อนครบกำหนดไถ่ถอน จำนวน 3 ชุด ประกอบด้วย
หุ้นกู้ชุดที่ 1 “หุ้นกู้มีประกันของบริษัท ไซมิส แอสเสท จำกัด (มหาชน) ครั้งที่ 3/2567 ชุดที่ 1 ครบกำหนดไถ่ถอนปี พ.ศ.2569 ซึ่งผู้ออกหุ้นกู้มีสิทธิไถ่ถอนหุ้นกู้ก่อนครบกำหนดไถ่ถอน” อัตราผลตอบแทน 7.00% ต่อปี มีอายุ 2 ปี
หุ้นกู้ชุดที่ 2 “หุ้นกู้มีประกันของบริษัท ไซมิส แอสเสท จำกัด (มหาชน) ครั้งที่ 3/2567 ชุดที่ 2 ครบกำหนดไถ่ถอนปี พ.ศ.2570 ซึ่งผู้ออกหุ้นกู้มีสิทธิไถ่ถอนหุ้นกู้ก่อนครบกำหนดไถ่ถอน” อัตราผลตอบแทน 7.50% ต่อปี มีอายุ 3 ปี
และ หุ้นกู้ชุดที่ 3 “หุ้นกู้ไม่มีประกันของบริษัท ไซมิส แอสเสท จำกัด (มหาชน) ครั้งที่ 3/2567 ชุดที่ 3 ครบกำหนดไถ่ถอนปี พ.ศ. 2568 ซึ่งผู้ออกหุ้นกู้มีสิทธิไถ่ถอนหุ้นกู้ก่อนครบกำหนดไถ่ถอน” อัตราผลตอบแทน 7.25% ต่อปี มีอายุ 1 ปี 1 เดือน
โดยมีกำหนดจ่ายดอกเบี้ยทุก 3 เดือน จองซื้อขั้นต่ำไม่น้อยกว่า 100000 บาท และทวีคูณครั้งละ 100000 บาท พร้อมเสนอขายให้แก่ นักลงทุนสถาบันและนักลงทุนรายใหญ่ โดยคาดว่าจะเปิดจองซื้อได้ระหว่างวันที่ 19 23 - 24 กรกฎาคม 2567 นี้ และมีวัตถุประสงค์การออกหุ้นกู้ในครั้งนี้เพื่อใช้ชำระหนี้หุ้นกู้ และบริษัทฯ เตรียมนำเงินไปใช้สำหรับพัฒนาโครงการอสังหาริมทรัพย์ ซึ่งเป็นรายได้หลักของบริษัทฯ และเพื่อใช้เป็นเงินทุนหมุนเวียนภายในกลุ่มบริษัทฯ
ทั้งนี้ นักลงทุนที่สนใจลงทุนหุ้นกู้ SA สามารถติดต่อบริษัทหลักทรัพย์ผู้จัดจำหน่าย 10 แห่ง ประกอบด้วย บริษัทหลักทรัพย์ ดาโอ (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) บริษัทหลักทรัพย์ โกลเบล็ก จำกัด บริษัทหลักทรัพย์ สยามเวลธ์ จำกัด บริษัทหลักทรัพย์ หยวนต้า (ประเทศไทย) จำกัด บริษัทหลักทรัพย์ พาย จำกัด (มหาชน) บริษัทหลักทรัพย์ เมอร์ชั่น พาร์ทเนอร์ จำกัด (มหาชน) บริษัทหลักทรัพย์ บลูเบลล์ จำกัด บริษัทหลักทรัพย์ เอเอสแอล จำกัด บริษัทหลักทรัพย์ บียอนด์ จำกัด (มหาชน) และ บริษัทหลักทรัพย์ ซีจีเอส อินเตอร์เนชั่นแนล (ประเทศไทย) จำกัด โดยมีบริษัทหลักทรัพย์ ดาโอ (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) เป็นผู้แทนผู้ถือหุ้นกู้
"การเตรียมเสนอขายหุ้นกู้ในแต่ละครั้งบริษัทฯ จัดสรรตามความเหมาะสมกับแผนการดำเนินธุรกิจ โดยไม่เน้นการขายจำนวนมากและดำเนินการด้วยความละเอียดรอบคอบ อีกทั้งมีการกำหนดอัตราดอกเบี้ยผลตอบแทบอ้างอิงกับ MLR (Minimum Loan Rate) อัตราดอกเบี้ยเงินกู้ขั้นต่ำสำหรับลูกค้าธนาคารชั้นดีซึ่งเป็นดอกเบี้ยสำหรับการทำธุรกิจหรือลูกค้ารายใหญ่ และมีการจ่ายอัตราดอกเบี้ยตามกำหนดเวลาและครบถ้วนทุกรุ่นมาโดยตลอด การจ่ายดอกเบี้ยเหล่านี้เป็นสิ่งที่เรายึดถือเป็นสำคัญ เพื่อรักษาความเชื่อมั่นและความไว้วางใจจากผู้ถือหุ้นและนักลงทุนทุกท่าน
นอกจากนี้ เงินทุนที่บริษัทฯ ได้รับจากการระดมทุนทุกครั้ง ได้ถูกนำไปใช้ตามวัตถุประสงค์ที่กำหนดไว้อย่างถูกต้องและโปร่งใส เพื่อเสริมสร้างและพัฒนาโครงการต่าง ๆ ตามแผนธุรกิจที่วางไว้ ทั้งนี้สะท้อนให้เห็นถึงการบริหารจัดการสภาพคล่องทางการเงินของบริษัทฯ ที่มีประสิทธิภาพและความรับผิดชอบต่อผู้ถือหุ้นและนักลงทุนทุกท่าน อีกทั้ง ด้วยศักยภาพและประสบการณ์ในการบริหารจัดการ บริษัทฯ ยังคงมุ่งมั่นในการพัฒนาและเติบโตในอุตสาหกรรมอสังหาริมทรัพย์อย่างต่อเนื่อง เรามีความเชื่อมั่นว่า การดำเนินการตามกลยุทธ์ที่ชัดเจนและการบริหารจัดการที่รอบคอบ จะทำให้บริษัทฯ สามารถรักษาความมั่นคงและสร้างผลตอบแทนที่ดีให้แก่ผู้ถือหุ้นและนักลงทุนในระยะยาว” นางสาวรีย์ฐิตา กล่าว
สำหรับแผนการดำเนินธุรกิจในปี 2567 บริษัทฯ มุ่งมั่นพัฒนานวัตกรรมเพื่อการอยู่อาศัยภายใต้แนวคิด "THE SUSTAINOVATIVE LIVING" สร้างที่อยู่อาศัยที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมอย่างยั่งยืน เพื่อตอบสนองไลฟ์สไตล์ยุคใหม่ผ่านโครงการที่พักอาศัยคุณภาพ พร้อมต่อยอดแนวคิด “Siamese Asset : Asset of Life สร้างกำไรให้ทุกการใช้ชีวิต” ทำให้นับจากวันนี้ทุกโครงการที่บริษัทพัฒนาจะต้องได้รับใบรับรอง EDGE มาตรฐานอาคารสีเขียวจาก IFC เพื่อคุณภาพชีวิตที่ยั่งยืน
ส่วนแนวโน้มผลการดำเนินธุรกิจในปี 2567 บริษัทฯ คาดการณ์ว่าจะสามารถเติบโตต่อเนื่องจากปี 2566 โดยตั้งเป้าหมายรายได้อยู่ที่ระดับ 5000 - 7000 ล้านบาท เนื่องจากมีแผนการทยอยโอนโครงการ Landmark At MRTA Station ต่อเนื่องจากปีก่อน ประกอบกับมียอดขายที่รอการโอนกรรมสิทธิ์ (Backlog) อยู่ประมาณ 7000 ล้านบาท ทยอยรับรู้ภายในปีนี้ประมาณ 68% อีกทั้งมีแนวโน้มการรับรู้รายได้ธุรกิจบริการเพิ่มขึ้นจากการเปิดตัวโรงแรม Tribe Bangkok Sukhumvit 39 ซึ่งเป็นโรงแรมแบรนด์ Tribe แห่งแรกในประเทศไทย จึงเป็นปัจจัยที่สนับสนุนผลการดำเนินงานของบริษัทฯ เติบโตได้อย่างโดดเด่น