SM-LEO-EURO-MENA ผนึกกำลังลุยโรดโชว์ จ.ชลบุรี

   เมื่อ : 27 มิ.ย. 2567

บมจ.สตาร์มันนี่ (SM) ร่วมกับ บมจ.ลีโอ โกลบอล โลจิสติกส์ (LEO) บมจ.ยูโร ครีเอชั่นส์ (EURO) และ บมจ.มีนาทรานสปอร์ต (MENA) เดินสายโรดโชว์พบนักลงทุนภาคตะวันออกใน จ.ชลบุรี กระแสตอบรับดีเยี่ยม โดย SM มั่นใจรายได้จากการขายสินค้าและรายได้รวมจะเติบโตต่อเนื่องไม่ต่ำกว่า 15-20% และตั้งเป้าพอร์ตสินเชื่อเช่าซื้อเติบโตไม่ต่ำกว่า 50% พร้อมรุกขยายธุรกิจมากขึ้นในทุกช่องทาง ฟาก LEO มั่นใจไตรมาส 2-4/67 ผลการดำเนินงานจะเติบโตเพิ่มขึ้นผ่านแผนธุรกิจ F.A.S.T.24 เดินหน้า JV และ M&A เพื่อสร้างการเติบโตรายได้ให้แข็งแกร่ง ด้าน EURO ตั้งเป้ารายได้ปีนี้จะเติบโตต่อเนื่องจากปีก่อน จากแผนการขยายสาขา และเพิ่มแบรนด์สินค้า ด้าน MENA อาศัยจุดแข็ง กำจัด pain point ลูกค้า ลุยขยายงานขนส่งอีคอมเมิร์ซ (E - commerce) ปั้นเป็น New S-Curve เสริมแกร่ง และการเปิดรับพันธมิตรทั้งในรูปแบบ JV และ M&A รุกขยายตลาด เพิ่มศักยภาพธุรกิจหลักให้มีความแข็งแกร่งในอนาคต

 

นายชูศักดิ์ วิวัฒน์วงศ์เกษม กรรมการผู้จัดการ SM ผู้นำในการให้บริการสินเชื่อแห่งภาคตะวันออก ทั้งสินเชื่อเครื่องใช้ไฟฟ้า สินเชื่อบ้านและที่ดิน รวมถึงนายหน้าประกันวินาศภัยทุกประเภท กล่าวว่า จุดแข็งและแตกต่างที่ SM มี และผู้ประกอบการส่วนใหญ่ในกลุ่ม Non-Bank ไม่มี คือ ธุรกิจขายสินค้าและสินเชื่อเช่าซื้อ เครื่องใช้ไฟฟ้า โทรศัพท์มือถือ คอมพิวเตอร์โน๊ตบุ้ค ที่ดอกเบี้ยเช่าซื้อ ไม่ถูกกำหนดเพดาน ให้ Yield ที่สูง และ High Margin รวมถึงศักยภาพการเป็นราชาเงินผ่อนที่เชี่ยวชาญในพื้นที่เขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก (EEC) ที่มีการเติบโตสูง

 

‘‘มั่นใจรายได้จากการขายสินค้าและรายได้รวมปี 67 เติบโตในระดับไม่ต่ำกว่า 15-20% รวมถึงพอร์ตสินเชื่อเช่าซื้อเติบโตไม่ต่ำกว่า 50% และเติบโตต่อเนื่องทุกปี โดยเฉพาะมือถือ Smart Phone  ที่จะเป็นสินค้า Flagship และตัวชูโรง Highlight ของปีนี้ พร้อมคุม NPL ไม่เกิน 4% จากกลยุทธ์การใช้เทคโนโลยี่ Lock  Phone ที่ช่วยให้ Cash collection ดีขึ้นต่อเนื่อง และ NPL ลดลงชัดเจน พร้อมลุยตลาดสินเชื่อให้ครบวงจร และครอบคลุมการขายทุกช่องทางทั้งออฟไลน์และออนไลน์ เชื่อมั่นว่าจะผลักดันให้ผลประกอบการโดยรวมทั้งของปีนี้ และปีต่อๆไป เติบโตแบบก้าวกระโดด’’ นายชูศักดิ์ กล่าวในที่สุด

 

ขณะที่ นายเกตติวิทย์ สิทธิสุนทรวงศ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร LEO ผู้ให้บริการด้านโลจิสติกส์ชั้นนำของประเทศไทยและทั่วโลกแบบครบวงจร เชื่อมั่นว่าในปี 2567 ด้วยแผนธุรกิจ F.A.S.T.24 จะสามารถสร้างการเติบโตของกำไรขั้นต้นและผลประกอบการให้เติบโตเพิ่มขึ้น โดยในช่วงไตรมาส 2-4/2567 จะเริ่มรับรู้รายได้จาก New Business Units รวมถึงจะพัฒนาและต่อยอดการให้บริการขนส่งสินค้าแบบครบวงจรทั้งในประเทศและระหว่างประเทศ  สามารถส่งมอบบริการโลจิสติกส์ที่มีประสิทธิภาพให้แก่ลูกค้า ด้วยบริการที่รวดเร็ว ฉับไว และใส่ใจในทุกความต้องการ ควบคู่ไปกับการดำเนินธุรกิจโลจิสติกส์อย่างยั่งยืนและเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม ตามแนวคิด Smart & Sustainable ยกระดับบริการที่เหนือกว่าให้แก่ลูกค้าของ LEO Global Logistics อย่างแท้จริง

 

“LEO มั่นใจผลการดำเนินงานในไตรมาส 2/2567 มีแนวโน้มดีต่อเนื่อง ทั้งจากค่าระวางเรือช่วงครึ่งปีหลังมีทิศทางปรับตัวเพิ่มขึ้น รายได้จาก 10 ธุรกิจใหม่ Non-Freight และ Non-Logistics ที่เริ่มไปแล้วและอยู่ระหว่างเตรียมเปิดดำเนินการ ขณะที่ธุรกิจ Green Logistics จะเริ่มเห็นความชัดเจนมากขึ้น ภายในไตรมาส 3-4/67 พร้อมเดินหน้าโครงการ JV และ M&A ใหม่ๆ ที่จะเกิดขึ้นในปี 2567 อีก 2-3 โครงการ เพื่อสร้างการเติบโตรายได้ให้แข็งแกร่ง” นายเกตติวิทย์ กล่าว

 

ด้าน นายเควิน กัมบีร์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บมจ.ยูโร ครีเอชั่นส์ (EURO) ผู้ประกอบการชั้นนำในธุรกิจ “Luxurious & High Quality Living” กล่าวถึงลักษณะธุรกิจของบริษัทฯ นำเข้าและจำหน่ายสินค้าที่มีเอกลักษณ์เฉพาะตัว (Unique) โดยให้ความสำคัญกับการออกแบบที่ทันสมัย ประวัติศาสตร์ของแบรนด์ การเลือกใช้วัสดุที่มีคุณภาพสูง และการผลิตด้วยช่างฝีมือที่มีความเชี่ยวชาญอย่างละเอียดอ่อน บริษัทฯ ยังนำเสนอแบรนด์จากดีไซเนอร์ชั้นนำของยุโรปเพื่อทำให้ทุกพื้นที่ในบ้านเป็นที่สะท้อนความเป็นเอกลักษณ์และไลฟ์สไตล์ พร้อมครอบคลุมทุกความต้องการทั้งหมดภายในที่อยู่อาศัย อาทิ Technogym Molteni&C Natuzzi Italia Giorgetti เป็นต้น

 

"สำหรับแผนการดำเนินงานในช่วงครึ่งปีหลัง บริษัทฯ เตรียมเปิดโชว์รูม Euro Creations Gallery ที่ทองหล่อซอย 5 นอกจากนี้บริษัทฯ อยู่ระหว่างการเตรียมเพิ่มแบรนด์ใหม่ พร้อมทั้งเพิ่มสินค้าใหม่จากแบรนด์เดิม ซึ่งศักยภาพตลาด Luxury-Ultra Luxury ยังเติบโตต่อเนื่องตามไลฟ์สไตล์ จึงเชื่อมั่นว่าจะเป็นปัจจัยสนับสนุนทำให้บริษัทฯ สามารถสร้างรายได้ในปี 67 เติบโตอย่างแข็งแกร่ง และมีผลงานออลไทม์ไฮ" นายเควิน กล่าว

 

ด้าน นางสาวพัชรีรัตน์ ขจรวุฒิเดชภัทร์ รองประธานเจ้าหน้าที่บริหาร MENA ผู้นำธุรกิจให้บริการขนส่งคอนกรีตผสมเสร็จด้วยรถมิกเซอร์ (Mixer) และรถเทรลเลอร์ (Trailer) รายใหญ่ของประเทศ ระบุว่า บริษัทฯ มีแผนรุกขยายงานขนส่งให้ครอบคลุมในหลากหลายอุตสาหกรรม โดยผ่านการขยายงานขนส่งอีคอมเมิร์ซ (E - commerce) และการเปิดรับพันธมิตรใหม่ๆ เพื่อขยายตลาดและเพิ่มศักยภาพธุรกิจหลักให้มีความแข็งแกร่งมากยิ่งขึ้น ขณะที่ภาครัฐเดินหน้าพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานด้านคมนาคมขนส่งเพื่อยกระดับการขนส่งและ       โลจิสติกส์ จะส่งผลดีต่อธุรกิจหลักของ MENA คือการให้บริการขนส่งคอนกรีตผสมเสร็จด้วยรถมิกเซอร์ รวมถึงการลงทุนของภาคเอกชนที่เพิ่มขึ้นเพื่อขานรับกับการท่องเที่ยวจากนโยบายฟรีวีซ่าของรัฐบาล เป็นปัจจัยบวกต่อธุรกิจของ MENA และ TDM เพราะนอกจากจะทำให้ธุรกิจการก่อสร้างขยายตัวแล้ว ยังจะทำให้การขนส่งสินค้าอุปโภคบริโภคเพิ่มขึ้น

 

“จะเห็นได้ว่าในเดือนมีนาคมที่ผ่านมา บริษัทฯ มีส่วนแบ่งการตลาดของธุรกิจการขนส่งคอนกรีตผสมเสร็จเพิ่มขึ้นเป็น 11.6% จากเดิมอยู่ที่ 11.4% แสดงถึงธุรกิจหลักของบริษัท คือ การให้บริการขนส่งคอนกรีตผสมเสร็จด้วยรถ Mixer ที่เติบโตมากกว่าอุตสาหกรรมการก่อสร้าง ส่วนแนวโน้มอุตสาหกรรมธุรกิจโลจิสติกส์ในครึ่งหลังปี 67 ยังมีตัวแปรสำคัญที่ต้องจับตา คือ  การลงทุนของภาครัฐ การลงทุนของภาคเอกชน ทุนต่างประเทศ และฤดูฝนที่จะส่งผลกระทบต่อภาคการก่อสร้างโดยรวม ซึ่งในส่วนของภาครัฐในช่วงครึ่งปีหลังมีปัจจัยสนับสนุนจากการเร่งรัดการเบิกจ่ายงบประมาณและการใช้จ่ายซึ่งล่าช้ามาจากปี 66 หากการเบิกจ่ายงบประมาณสามารถเกิดขึ้นได้ภายในปีนี้ จะเป็นปัจจัยบวกกับ MENA แต่หากมีความล่าช้าอาจส่งผลต่อปริมาณงานในระยะสั้น แต่ก็เป็นเพียงการเลื่อนออกไปเท่านั้นแต่การก่อสร้างยังคงอยู่ และในส่วนของ Organic growth ตั้งเป้า 3-5 ปี มี Market share รถ Mixer ถึง 20% ดันรายได้เพิ่มขึ้นกว่า 400 ล้านบาท” นางสาวพัชรีรัตน์ กล่าว