อินฟลูเอ็นเชี่ยล แบรนด์ สิงคโปร์ จับมือ นิโอ ทาร์เก็ต เฟ้นหา สุดยอดแบรนด์ครองใจผู้บริโภคสูงสุด

   เมื่อ : 15 มี.ค. 2567

อินฟลูเอ็นเชี่ยล แบรนด์ ประเทศสิงคโปร์ และ นิโอ ทาร์เก็ต ผู้นำด้านที่ปรึกษาสร้างชื่อเสียงองค์กรในประเทศไทย เตรียมค้นหาสุดยอดแบรนด์ ผู้บริหาร และผู้นำองค์กร เข้ารับรางวัล อินฟลูเอ็นเชี่ยล แบรนด์ อะวอร์ด ประจำปี 2566 โดยลงพื้นที่ทำวิจัยค้นหาสุดยอดแบรนด์ที่มีอิทธิพลสูงสุดต่อผู้บริโภค และเชิญชวนบริษัทฯ องค์กรรัฐและวิสาหกิจชั้นนำของไทย ร่วมส่งข้อมูลเพื่อชิงความเป็นที่สุดของแบรนด์ที่ประสบความสำเร็จในการดำเนินธุรกิจสูงสุดต่อเนื่อง ผู้บริหารและผู้นำธุรกิจที่โดดเด่นแห่งปี

มร.จอร์จ โรดิกัส กรรมการผู้จัดการ อินฟลูเอ็นเชี่ยล แบรนด์ ประเทศสิงคโปร์ กล่าวว่า “ในฐานะที่อินฟลูเอ็นเชี่ยล แบรนด์ เป็นองค์กรที่เชี่ยวชาญด้านความรู้ทางธุรกิจและการสร้างแบรนด์ในเอเชีย มายาวนานกว่า 20 ปี มีสำนักงานใหญ่อยู่ในประเทศสิงคโปร์ และได้รับการยอมรับอย่างกว้างขวางว่าเป็นองค์กรที่ยกย่อง “สุดยอดองค์กรที่มีความเป็นเลิศ” และส่งเสริมการแลกเปลี่ยนความรู้ระหว่างบริษัทชั้นนำในเอเชีย เราตระหนักถึงความเป็นเลิศทางธุรกิจและความสามารถในการปรับตัวของธุรกิจไทยในช่วงเวลาที่ท้าทายนี้ หลายปีที่ผ่านมาไม่ใช่เรื่องง่าย โดยสิ่งเหล่านี้ยังช่วยให้บริษัทต่างๆ มีโอกาสสร้างความแข็งแกร่งและพลิกโฉมธุรกิจของตน และเรามั่นใจว่าบริษัทไทยจะได้รับประโยชน์จากการแลกเปลี่ยนและสร้างเครือข่ายกับบริษัทที่ดีที่สุดในระดับเดียวกัน ผ่านเครือข่ายระดับโลก และระดับภูมิภาคที่ดีที่สุดของเรา”

นางวรรณี ลีลาเวชบุตร ผู้ก่อตั้งและประธานกรรมการบริหาร บริษัท นิโอ ทาร์เก็ต จำกัด กล่าวว่า “ท่ามกลางความท้าทายการทำธุรกิจในโลกยุคใหม่ องค์กรต่างให้ความสำคัญในการสร้างความแข็งแกร่งของแบรนด์ ให้ได้รับการยอมรับ ยกย่องจากสังคม โดยเฉพาะสังคมที่มีผู้นำเป็นผู้ที่มีอิทธิพล นอกจากนี้ การเข้าใจพฤติกรรมและไลฟ์สไตล์ของผู้บริโภคในยุคนี้ จะช่วยให้แบรนด์และสินค้าเป็นที่นิยมมากขึ้น สามารถครองใจผู้บริโภคได้อย่างยั่งยืน”

 

สำหรับรางวัลที่จะมอบในปีนี้ประกอบด้วย 4 ประเภท ได้แก่ รางวัลสำหรับองค์กรและสินค้ามี 2 ประเภท คือ Influential Brands และ Outstanding Brands และอีก 2 รางวัล สำหรับผู้บริหารองค์กรคือ Top CEOs และOutstanding Leaders โดยในช่วงไตรมาสสุดท้ายในปีที่ผ่านมา ได้มีการสำรวจผู้บริโภคกลุ่ม Gen Y และ Z ในประเทศไทย ซึ่งเป็นกลุ่มที่มีสัดส่วนการใช้จ่ายสูงสุดในประเทศไทยในปัจจุบัน โดยขนาดกลุ่มตัวอย่างให้ระดับความเชื่อมั่นอยู่ที่ 95% และ /-5% ซึ่งสามารถสะท้อนถึงมุมมองและความพึงพอใจของแบรนด์ในประเทศไทย