CPANEL ตุน Backlog 1559.86 ลบ. มาตรการภาษีหนุนอสังหาฯ ดันดีมานด์ Precast เพิ่ม

   เมื่อ : 15 มี.ค. 2567

CPANEL เผยทิศทางธุรกิจไตรมาส 1 ดีมานด์ดีต่อเนื่อง ตุน Backlog 1559.86 ล้านบาท ลุ้นเซ็นสัญญาลูกค้าแนวราบเพิ่ม 3 ราย มูลค่ารวม 200 ล้านบาท มาตรการด้านภาษีหนุนภาพรวมอสังหาฯ ดันดีมานด์ Precast Concrete เพิ่ม ด้านงบปี 66 รายได้รวม 436.82 ล้านบาท กำไรสุทธิ 62.71 ล้านบาท เล็งแจกปันผล 0.16 บาทต่อหุ้น

 

นายชาคริต ทีปกรสุขเกษม กรรมการผู้จัดการ บริษัท ซีแพนเนล จำกัด (มหาชน) หรือ CPANEL เปิดเผยว่า ทิศทางการดำเนินธุรกิจไตรมาส 1/67 แนวโน้มเติบโตดีต่อเนื่อง จากลูกค้าใหม่ที่มากขึ้นและลูกค้าเดิมมีคำสั่งซื้อซ้ำ รวมถึงแผนขยายฐานลูกค้ากลุ่มใหม่ ๆ เพิ่มเติม

 

โดยบริษัทมีมูลค่างานในมือ (Backlog) ณ 26 ก.พ.67 จากสัญญาที่ลงนามเรียบร้อยแล้วอยู่ที่ 1559.86  ล้านบาท ทยอยรับรู้รายได้ปีนี้ 694.93 ล้านบาท และภายในปี 2568 จำนวน 864.93 ล้านบาท อีกทั้ง อยู่ระหว่างรอเซ็นสัญญากับลูกค้าใหม่โครงการแนวราบเพิ่ม 3 ราย มูลค่ารวมกว่า 200 ล้านบาท คาดว่าจะเห็นความชัดเจนภายในครึ่งปีแรก 2567 นี้

 

สำหรับภาพรวมตลาดอสังหาริมทรัพย์ปี 2567 มีปัจจัยหนุนจากมาตรการด้านภาษี ช่วยกระตุ้นการซื้อขายและเพิ่มสภาพคล่องในตลาด โดยการลดหย่อนภาษีเงินได้บุคคลธรรมดาที่จ่ายเป็นดอกเบี้ยเงินกู้ยืมเพื่อซื้อที่อยู่อาศัย ช่วยให้ผู้ที่มีรายได้สามารถซื้ออสังหาฯ ได้ง่ายขึ้น อีกทั้ง การยกเว้นภาษีที่ดินและสิ่งปลูกสร้างจะช่วยกระตุ้นการลงทุนในโครงการใหม่ นอกจากนี้ การขยายเวลาจัดเก็บภาษีที่ดินและสิ่งปลูกสร้าง จะช่วยให้ผู้ประกอบการมีเวลาเตรียมการ ลดภาระการจ่ายเงินก้อนใหญ่ ส่งผลดีต่อสภาพคล่อง และ การลดค่าธรรมเนียมจดทะเบียนการโอนจาก 2% เหลือ 1% และลดค่าค่าธรรมเนียมจดทะเบียนการจำนองจาก 1% เหลือ 0.01% ในปี 2567 ส่งผลดีต่อตลาดอสังหาริมทรัพย์โดยรวม

ทั้งนี้ นอกจากปัจจัยดังกล่าวแล้ว การปรับตัวของราคาอิฐมวลเบาที่เพิ่มอย่างต่อเนื่อง การเพิ่มขึ้นของอัตราค่าแรงขั้นต่ำ ความเสี่ยงของภาคกฎหมายในการลดวันทำงาน และผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมที่ได้รับการผลักดันมากขึ้น ส่งผลให้ความต้องการใช้ผลิตภัณฑ์แผ่นคอนกรีตสำเร็จรูป (Precast Concrete) มีแนวโน้มเพิ่มขึ้น ทำให้ผู้พัฒนาอสังหาริมทรัพย์ยังคงมีความจำเป็นในการบริหารความเสี่ยง ลดต้นทุน ลดเวลาการก่อสร้าง และลดจำนวนแรงงาน ซึ่ง Precast Concrete ของ CPANEL สามารถตอบโจทย์การใช้งานได้อย่างครอบคลุม พร้อมทั้งมีความรวดเร็วในการส่งมอบงาน โดยบริษัทมีกำลังการผลิตเพียงพอ พร้อมที่จะรองรับคำสั่งซื้อที่มีแนวโน้มเพิ่มขึ้น

 

สำหรับ ผลประกอบการปี 2566 บริษัทมีรายได้รวม 436.82 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากช่วงเดียวกันปีก่อนที่มีรายได้รวม 433.97 ล้านบาท จำนวน 2.85 ล้านบาท และมีกำไรสุทธิ 62.71 ล้านบาท ลดลงจากช่วงเดียวกันปีก่อนที่มีกำไรสุทธิ 67.94 ล้านบาท จำนวน 5.23 ล้านบาท

 

นอกจากนี้ คณะกรรมการบริษัทมีมติอนุมัติจ่ายปันผลให้แก่ผู้ถือหุ้นเป็นเงินสดในอัตรา 0.16 บาทต่อหุ้น รวมเป็นปันผลจ่ายทั้งสิ้นไม่เกิน 26.11 ล้านบาท คิดเป็นอัตราการจ่ายเงินปันผลประจำปี 2566 ที่ 41.78% ของกำไรสุทธิหลังหักสำรองตามกฎหมาย กำหนดรายชื่อผู้ถือหุ้นที่มีสิทธิได้รับปันผล (Record Date) วันที่ 8 พ.ค. กำหนดจ่ายเงินปันผลให้แก่ผู้ถือหุ้นวันที่ 25 พ.ค. โดยมติดังกล่าวเตรียมนำเสนอเพื่อขออนุมัติจากที่ประชุมสามัญผู้ถือหุ้นประจำปี 2567 วันที่ 25 เม.ย. เพื่อพิจารณาต่อไป