สิงห์ เอสเตท คว้า 3 มาตรฐาน ISO ระดับสากล ครบทั้ง 4 โครงการ

   เมื่อ : 09 ก.ค. 2567

บริษัท สิงห์ เอสเตท จำกัด (มหาชน) หรือ S ตอกย้ำศักยภาพมาตรฐานการบริหารจัดการระดับสากล ผ่านปรัชญา Go Beyond Dreams เติมเต็มทุกคุณค่าชีวิตเพื่อการเติบโตอย่างยั่งยืน ด้วยการคว้า 3 มาตรฐานไอเอสโอ (ISO) อย่าง ISO 9001:2015 ด้านคุณภาพการจัดการ ISO 14001:2015 ด้านการจัดการสิ่งแวดล้อม และ ISO 45001:2018 ด้านอาชีวอนามัยและความปลอดภัย ทั้ง 4 อาคารสำนักงาน ได้แก่  S-OASIS S-METRO SUNTOWERS และ SINGHA COMPLEX ภายใต้การบริหารจัดการอาคาร โดย บริษัท แม็กซ์ ฟิวเจอร์ จำกัด ในเครือสิงห์ เอสเตท ได้นำนโยบายด้านสิ่งแวดล้อมมาเป็นหัวใจหลักในออกแบบอาคารสำนักงาน เพื่อลดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมและลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจก อีกทั้งยังใส่ใจเรื่องอาชีวอนามัย เพื่อความปลอดภัยและสุขภาวะที่ดีของผู้ใช้บริการ สะท้อนถึงความมุ่งมั่น ใส่ใจในการให้บริการของสิงห์ เอสเตท

 

คุณโอฬาร วัยอุดมวุฒิ ผู้อำนวยการฝ่ายพัฒนาธุรกิจค้าปลีกและการพาณิชย์ บริษัท สิงห์ เอสเตท จำกัด (มหาชน) หรือ ‘S’ กล่าวว่า “สิงห์ เอสเตท ให้ความสำคัญในการขับเคลื่อนธุรกิจควบคู่กับการพัฒนาสังคมและชุมชนอย่างยั่งยืน พร้อมเติมเต็มคุณค่าชีวิตผ่านปรัชญา Go Beyond Dreams ส่งผลให้การดำเนินงานในทุกๆ รายละเอียดเต็มไปด้วยความมุ่งมั่น และตั้งใจนำเสนอสิ่งที่ดีที่สุดให้กับผู้เช่า และผู้ที่เข้ามาใช้บริการภายในอาคารสำนักงาน ในปีนี้เราได้รับการรับรองจาก 3 มาตรฐานไอเอสโอ (ISO) ระดับสากล ครบทั้ง 4 โครงการ ได้แก่ S-OASIS S-METRO SUNTOWERS และ SINGHA COMPLEX นับเป็นการตอกย้ำความสำเร็จในฐานะผู้นำด้านธุรกิจอสังหาริมทรัพย์เพื่อการค้าและอาคารสำนักงาน โดยมาตรฐานเหล่านี้มาจากนโยบายและทิศทางของบริษัทที่คำนึงถึงระบบการบริหารจัดการด้านคุณภาพ ด้านสิ่งแวดล้อม และความปลอดภัย เป็นสิ่งสำคัญ เราตั้งใจส่งมอบคุณค่าการใช้ชีวิตแบบไร้รอยต่อให้กับลูกค้าทุกกลุ่มเจเนอเรชั่น นอกจากนี้ยังตระหนักถึงความสำคัญของการคัดเลือกและพัฒนาบุคลากร ให้มีทักษะความรู้ความสามารถในการให้บริการลูกค้าอย่างเชี่ยวชาญและถูกต้อง ผ่านการบริหารจัดการกระบวนการทำงานที่คล่องตัวชัดเจน สามารถตรวจสอบและประเมินผลการทำงานได้ รวมถึงมีมาตรฐานการทำงานที่เหมือนกันทุกอาคารสำนักงาน เพื่อยกระดับธุรกิจ Commercial Building ของบริษัท ในทุกโครงการของสิงห์ เอสเตท ให้ก้าวสู่มาตรฐานเดียวกันในระดับสากล”

 

ด้านคุณศราวุธ ศุภรัตนชาติพันธ์ Deputy Certification Manager Bureau Veritas Certification (Thailand) Ltd. เผยว่า “มาตรฐานไอเอสโอ ได้รับการยอมรับจากทั่วโลกในฐานะเป็นหนึ่งในมาตรฐานที่เข้มงวดและดีที่สุดของการพัฒนาระบบบริหารจัดการด้านการบริหารและสิ่งแวดล้อมอย่างมีประสิทธิภาพ โดยมาตรฐานไอเอสโอนี้ สามารถนำมาประยุกต์ใช้กับธุรกิจในทุกระดับองค์กรและอุตสาหกรรม รวมถึงการบริหารจัดการธุรกิจอสังหาริมทรัพย์เช่นเดียวกัน เพื่อเป็นเครื่องหมายรับรองคุณภาพและประสิทธิภาพอย่างสูงสุดในด้านสุขภาพและความปลอดภัย รวมถึงด้านสิ่งแวดล้อมที่จะช่วยลดผลกระทบต่าง ๆ ที่จะเกิดขึ้น ลดค่าใช้จ่ายให้กับธุรกิจ และสร้างความพึงพอใจให้กับทุกคนที่เข้ามาใช้บริการด้วยมาตรฐานการจัดการระดับสากล  ทั้งนี้ การที่อาคารสำนักงานและและโครงการมิกซ์ยูสในเครือของสิงห์ เอสเตท ได้รับการประเมินและผ่านมาตรฐานไอเอสโอทั้ง 4 อาคารนั้น สามารถยืนยันได้ว่าสิงห์ เอสเตท และบริษัท แม็กซ์ ฟิวเจอร์ จำกัด มีการบริหารจัดการที่เป็นเลิศ ใส่ใจสิ่งแวดล้อม และส่งมอบสิ่งที่ดีที่สุดให้ผู้เช่าและลูกค้าทุกคน”

 

มาตรฐานไอเอสโอ จัดทำโดย องค์การมาตรฐานสากล หรือ International Organization for Standardization เป็นมาตรฐานการวัดคุณภาพธุรกิจและอุตสาหกรรม เพื่อรับรองระบบการบริหารและการดำเนินงานขององค์กรให้เป็นมาตรฐานเดียวกันทั่วโลก โดยในปี 2567 นี้อาคารสำนักงานและโครงการมิกซ์ยูสของ สิงห์ เอสเตท ได้รับการรับรองมาตรฐานไอเอสโอได้สำเร็จทั้ง 3 ด้าน ได้แก่

 

1. ISO 9001:2015 มาตรฐานด้านคุณภาพการจัดการ เป็นมาตรฐานของระบบบริหารคุณภาพที่สร้างความมั่นใจว่าการดำเนินงานจะทำให้ได้สินค้าหรือบริการที่มีคุณภาพตรงตามความต้องการของลูกค้า ซึ่งโครงการคอมเมอร์เชียลของสิงห์ เอสเตท ที่บริหารจัดการโดยบริษัท แม็กซ์ ฟิวเจอร์ จำกัด ตั้งอยู่ในทำเลศูนย์กลางธุรกิจ สามารถเดินทางสะดวก พร้อมทั้งยังมีสิ่งอำนวยความสะดวกและนวัตกรรมภายในอาคารที่ครบครัน สามารถตอบโจทย์ความต้องการ และรองรับผู้เช่าและลูกค้าที่เข้ารับบริการได้อย่างทั่วถึง

 

2. ISO 14001:2015 คือ มาตรฐานด้านการจัดการสิ่งแวดล้อม ซึ่งเป็นมาตรฐานสากลสำหรับองค์กรที่มุ่งมั่นสนับสนุนด้านความรับผิดชอบต่อสิ่งแวดล้อมอย่างเป็นระบบ และลดผลกระทบต่อโลก สอดคล้องกับการดำเนินการของสิงห์ เอสเตท ที่ให้ความสำคัญในด้านสิ่งแวดล้อมควบคู่ไปพร้อมกับการบริหารธุรกิจ พร้อมรองรับผู้เช่าที่ต้องเข้าสู่ Green Process Policy เพื่อก้าวสู่มาตรฐานระดับสากล จึงสามารถสร้างความมั่นใจให้กับแบรนด์และภาคธุรกิจที่มองหาพื้นที่สำนักงานในโครงการที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม

 

3. ISO 45001:2018 คือ มาตรฐานระบบการจัดการอาชีวอนามัยและความปลอดภัย ซึ่งมีส่วนช่วยลดความเสี่ยงและเพิ่มความปลอดภัยในสถานที่ทำงาน นับเป็นส่วนสำคัญต่อการส่งมอบบริการด้านอาคารอย่างรับผิดชอบและปลอดภัยของสิงห์ เอสเตท เช่น การติดตั้งเครื่องฆ่าเชื้อโรคด้วยแสง UV – UVC ในอากาศ รวมถึงเครื่องฟอกอากาศโอโซนภายในอาคาร เพื่อเพิ่มออกซิเจนภายในอาคาร

 

โดยมาตรฐานไอเอสโอระดับโลกที่ได้การรับรองในครั้งนี้ ตอกย้ำถึงความมุ่งมั่นและความสำเร็จของ สิงห์ เอสเตท ในการบริหารจัดการด้านนโยบายสิ่งแวดล้อมและทุกๆ โครงการรักษ์โลกภายในเครือฯ ได้เป็นอย่างดี และในอนาคต สิงห์ เอสเตท ยังคงมุ่งหน้าพัฒนาธุรกิจ สินค้า และการบริการ ผ่านการบริหารจัดการที่มีมาตรฐาน เพื่อยกระดับ และนำเสนอสิ่งที่ดีที่สุดให้กับลูกค้า ผู้มีส่วนได้ส่วนเสีย ตลอดจนพันธมิตรทุกฝ่าย พร้อมส่งต่อบริการคุณภาพ เติมเต็มคุณค่าชีวิต เพื่อการเติบโตอย่างยั่งยืนอย่างต่อเนื่อง