บมจ.เพาเวอร์ โซลูชั่น เทคโนโลยี (PSTC) ปักหมุดครึ่งปีหลังลุยธุรกิจในเครือทั้งโรงไฟฟ้า พลังงาน ก่อสร้าง (EPC) และบริการขนส่งน้ำมันทางท่อ ตามแผนที่วางไว้ เน้นกลยุทธทำตลาดเชิงรุก ขยายตลาดกลุ่มลูกค้า Private PPA  มั่นใจทุกธุรกิจเติบโตอย่างต่อเนื่อง ผลักดันรายได้ทั้งกลุ่มเติบโตไม่ต่ำกว่า 10% พร้อมเข้าสู่โหมดเติบโตรอบใหม่เต็มรูปแบบ

นายธนัช ปวรวิปุลยากร ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เพาเวอร์ โซลูชั่น เทคโนโลยี จำกัด (มหาชน) (PSTC) เปิดเผยว่า แผนธุรกิจครึ่งปีหลังของปี 2567 บริษัทฯ มีการเติบโตดีขึ้นในทุกกลุ่มธุรกิจ โดยตั้งเป้ารายได้รวมของทั้งกลุ่มบริษัทฯ เติบโตไม่ต่ำกว่า 10% ซึ่งยังคงให้ความสำคัญในกลุ่มธุรกิจหลัก ได้แก่ 1.ธุรกิจโรงไฟฟ้า เน้นไปที่โรงไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์ 2.ธุรกิจจำหน่าย LNG 3.ธุรกิจ LPG เจาะกลุ่มไปยังโรงงานอุตสาหกรรมขนาดใหญ่ มีสัญญาระยะยาว 4. ธุรกิจก่อสร้าง (EPC) ที่เกี่ยวเนื่องกับพลังงาน และธุรกิจที่ 5 คือให้บริการขนส่งน้ำมันทางท่อเส้นทางภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ซึ่งดำเนินการโดยบริษัท ไทย ไปป์ไลน์ เน็ตเวิร์ค จำกัด (TPN) เป็นบริษัทร่วมทุนระหว่างกลุ่มบริษัท PSTC และ EGCO ถือเป็นธุรกิจที่ร่วมสนับสนุนนโยบาย ESG เพื่อสร้างความยั่งยืนในอนาคต

ทั้งนี้ PSTC ยังให้ความสำคัญกับโครงการจำหน่ายคาร์บอนเครดิต (Carbon Credit) โดยคำนึงถึงปริมาณการปล่อยมลภาวะสู่สิ่งแวดล้อม และมีเป้าหมายเพื่อลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกมากยิ่งขึ้น ซึ่งถือว่าเป็นอีกหนึ่ง  กลยุทธ์หลักในปีนี้ อีกทั้งยังเป็นการช่วยเพิ่มรายได้ของกลุ่มบริษัทให้เป็นไปตามเป้าหมายที่วางไว้ และเป็นส่วนสำคัญในการเร่งให้เกิดการเปลี่ยนผ่านสู่สังคมคาร์บอนต่ำและสนับสนุนเป้าหมายของประเทศในการมุ่งสู่ความเป็นกลางทางคาร์บอน (Carbon Neutrality) อันจะเป็นส่วนสำคัญในการร่วมแก้ปัญหาสิ่งแวดล้อมอย่างยั่งยืนอีกด้วย

“ในครึ่งปีหลังของปีนี้ ประเมินว่า แนวโน้มธุรกิจยังมีทิศทางที่ดีจากการทำตลาดเชิงรุก ขยายตลาดกลุ่มลูกค้า Private PPA ให้มากขึ้น โดยใช้กลยุทธ์เจาะกลุ่มลูกค้าโรงแรม โรงพยาบาล ห้างสรรพสินค้า และโรงงานอุตสาหกรรม โดยเชื่อว่าจุดแข็งของกลุ่มบริษัทที่สามารถให้บริการลูกค้าได้ครบวงจรและการเป็นผู้นำในตลาดจะสร้างความเชื่อมั่นให้ลูกค้าได้ นอกจากนี้ ยังมองหาโอกาสการเข้าลงทุนในธุรกิจที่เกี่ยวข้องกับธุรกิจหลัก เพื่อสร้าง New S-Curve มั่นใจว่าในปีนี้ผลงานของบริษัทฯ จะสามารถเติบโตตามแผน” นายธนัช กล่าวในที่สุด