กูรูแนะ “ซื้อ FM” P/E ต่ำ 7.5 เท่า เทียบ P/E เฉลี่ยกลุ่ม 12 เท่า มีอัพไซด์เพียบ เคาะราคาเป้าหมาย 8.30 – 8.90 บ./หุ้น
กูรูเชียร์ “ซื้อ” หุ้น บมจ. ฟู้ดโมเม้นท์ (FM) ผู้นำนวัตกรรมผลิตและแปรรูปเนื้อไก่ปรุงสุก เคาะราคาเป้าหมาย 8.30 – 8.90 บาท /หุ้น มองเป็นโอกาสสะสมเข้าพอร์ต ชี้มี 7 ปัจจัยหนุน ดันผลงานโตยั่งยืน จากอุตสาหกรรมไก่ที่มีการบริโภคสูงสุด แนวโน้มอุตสาหกรรมเป็น“ขาขึ้น”และไทยเป็นเบอร์หนึ่งส่งออกไก่แปรรูปปรุงสุก ขณะที่แผนขยายกำลังการผลิต รุกตลาดส่งออกเจาะกลุ่มลูกค้าไฮเอนด์ ออกโปรดักส์ใหม่ คาดงบไตรมาส 2/67 กำไรพุ่งแรง 137% เทียบงวดเดียวกันของปีก่อน อานิสงส์ส่งออกไก่แปรรูปปรุงสุกโตแรง ขณะที่ฐานะทางการเงินแข็งแกร่ง D/E ต่ำ ROE สูง และหุ้นซื้อขายที่ P/E 7.5 เท่า เทียบกับ P/E เฉลี่ยของกลุ่มที่ 12 เท่า โดยให้ราคาเป้าหมาย 8.30 - 8.90 บาท/หุ้น
บริษัทหลักทรัพย์เมย์แบงก์ (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) เผยแพร่บทวิเคราะห์ บริษัท ฟู้ดโมเม้นท์ จำกัด (มหาชน) (FM) ว่า FM มีแนวโน้มกำไรปีนี้ได้ดีกว่าที่คาดการณ์ เนื่องจากยอดขายและอัตรากำไรในไตรมาส 2/2567 คาดว่าจะเติบโตอย่างแข็งแกร่งเพิ่มขึ้น 130% เทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน หรือ 68% จากไตรมาสก่อนเป็น 205 ล้านบาท โดยคาดยอดขายเพิ่มขึ้น 27% เทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน หรือ 8% จากไตรมาสก่อน
ขณะเดียวกันประเมินว่า ในไตรมาส 3 - 4 ปี 2567 แนวโน้มยอดขายเพิ่มขึ้นต่อเนื่องจากอัตราการใช้กำลังการผลิตของ FM คาดว่าจะเพิ่มเป็น 90% ในไตรมาส 3/2567 โมเมนตัมยอดขายเติบโตต่อเนื่องจากการผลิตสินค้า CAV ให้กับลูกค้าใหม่และมีการเปิดตลาดใหม่ คือ ประเทศ UAE ซึ่ง FM เป็นหนึ่งในโรงงานที่ได้รับอนุญาตให้ส่งออกไก่ไป UAE แล้ว นอกจากนั้น การที่ประเทศบราซิลซึ่งเป็นผู้ส่งออกไก่สดแช่แข็งอันดับหนึ่งของโลกประสบปัญหาไข้หวัดนกระบาดทำให้มีการหยุดส่งออกไก่ไปจีนชั่วคราว รวมถึงบางพื้นที่ในยุโรปและญี่ปุ่น ซึ่งเป็นโอกาสของผู้ส่งออกไทยในการส่งออกไก่มากขึ้น ทั้งนี้ กำไรสุทธิช่วงครึ่งปีแรก 2567 คาดการณ์คิดเป็น 63% ของประมาณการกำไรปีนี้ ซึ่งส่งผลให้มีอัพไซด์ต่อประมาณการ หุ้นซื้อขายที่ P/E 9.5 เท่า เทียบกับ P/E เฉลี่ยของกลุ่มที่ 13.5 เท่า โดยให้ราคาเป้าหมาย 8.90 บาท/หุ้น
บริษัทหลักทรัพย์ ทิสโก้ จำกัด เผยแพร่บทวิเคราะห์หุ้น บริษัท ฟู้ดโมเม้นท์ จำกัด (มหาชน) หรือ FM โดยแนะนำซื้อ ราคาเป้าหมาย 8.30 บาท โดย PER ที่ 15 เท่า มองเป็นโอกาสสะสม จากราคาที่ต่ำ คิดเป็น PER 24F ที่ 7.5 เท่า ค่อนข้างต่ำเทียบกับ PER24F ของตลาดกลุ่มนี้ที่ 12 เท่า Dividend yield 5% และบริษัทมีฐานะการเงินแข็งแกร่งเป็นเงินสดสุทธิ
นอกจากนี้ ยังคาดว่ากำไรสุทธิไตรมาส 2/2567จะเติบโตแข็งแกร่งจากธุรกิจการส่งออกไก่แปรรูปปรุงสุก โดยมีกำไรสุทธิที่ 216 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 137% เทียบกับช่วงเดียวกันปีก่อน หรือเพิ่มขึ้น 77% เทียบไตรมาส 1/2567 โดยคาดรายได้รวมจะเติบโต 27% เทียบกับช่วงเดียวกันปีก่อน หรือ 8% เทียบไตรมาส 1/2567 จากธุรกิจไก่ส่งออกแปรรูปที่เพิ่มขึ้นเป็นหลัก ทั้งยุโรป ญี่ปุ่น และจีน
รวมถึงประเทศอื่นๆ ที่บริษัทส่งออกกว่า 10ประเทศ สัดส่วนรายได้ธุรกิจไก่แปรรูปปรุงสุกเพิ่มขึ้นคาดที่ 37% จากไตรมาส 1/2567 อยู่ที่ 31% ส่งผลให้อัตรามาร์จิ้นเพิ่มขึ้นอยู่ที่ 16.5%จาก 11.3% เทียบกับช่วงเดียวกันปีก่อน และ 11.9% เทียบไตรมาส 1/2567 จากสัดส่วนธุรกิจไก่แปรรูปที่เพิ่มขึ้นซึ่งมีอัตรามาร์จิ้นมากกว่าไก่สดชำแหละถึง 3 เท่า
“เรายังคงประมาณการคาดกำไรสุทธิครึ่งแรกปี 2567 เติบโต 106% เมื่อเทียบช่วงเดียวกันปีก่อน และคาดกำไรสุทธิปี 2567 เพิ่มขึ้น 15%เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน และเติบโตต่อเนื่องในปี 2568 – 2569 ที่เฉลี่ย 20% (CAGR2y) จากการขยายกำลังการผลิตธุรกิจไก่แปรรูปปรุงสุกเพิ่มขึ้น 30% ในปี 2569 และขยายไก่สดชำแหละเพิ่มขึ้น 25% ในปี 2569รองรับการส่งออกเติบโต บริษัทมีฐานะการเงินแข็งแกร่งมี D/E ที่ต่ำ และมี ROE ที่สูงมีผลการดำเนินงานที่ทำกำไรต่อเนื่อง”
บทวิเคราะห์ระบุ เพิ่มเติมว่า คาดผลประกอบการ FM จะเติบโตอย่างยั่งยืนจากปัจจัยบวก 1) ภาพรวมอุตสาหกรรมไก่ยังเป็นอันดับ 1 ในการบริโภคมากที่สุด และประเทศไทยติดในกลุ่ม 5อันดับแรกในการส่งออกของโลก 2) ประเทศไทยเป็นผู้นำอันดับ 1 ในการเป็นผู้ส่งออกไก่แปรรูปปรุงสุก (CAV Products) สอดคล้องกับที่บริษัทมุ่งเน้นธุรกิจกลุ่มนี้ 3) แนวโน้มอุตสาหกรรมไก่ไทยเป็นช่วงขาขึ้น 4) บริษัทมีแผนขยายกำลังการผลิตไก่แปรรูป (CAV Products) มุ่งเน้นสินค้าที่มีอัตราทำกำไรสูงสร้างกำไรเติบโตอย่างยั่งยืน 5) ขยายตลาดส่งออกกลุ่มประเทศใหม่ๆ และยังคงรักษาลูกค้าระดับไฮเอนด์พรีเมียมไว้ 6) พัฒนาออกสินค้าใหม่ปลายน้ำ (downstream) อย่างต่อเนื่อง และ 7) ขยายกำลังการผลิตไก่ชำแหละ เพิ่มประสิทธิภาพห่วงโซ่อุปทาน (supply chain optimization)