RT โชว์งบครึ่งปีแรก โกยรายได้ 1852 ลบ. กำไร 54 ลบ.

   เมื่อ : 14 ส.ค. 2567

RT เผยผลประกอบการครึ่งปีแรก 2567 รายได้รวม 1852 ล้านบาท กำไรสุทธิ 54 ล้านบาท เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อนจากการเพิ่มประสิทธิภาพการดำเนินงาน บริหารต้นทุน และ ส่งมอบงานโครงการก่อสร้างได้ตามแผน ด้านทิศทางธุรกิจไตรมาส 3/2567 เดินหน้ารับรู้รายได้จาก Backlog มูลค่ารวม 7332 ล้านบาท พัฒนาระบบการดำเนินงาน เตรียมพร้อมเข้าประมูลงานใหม่โครงการก่อสร้างภาครัฐ-เอกชน สร้างการเติบโตต่อเนื่อง

 

นายชวลิต ถนอมถิ่น ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ไร้ท์ทันเน็ลลิ่ง จำกัด (มหาชน) หรือ RT ผู้เชี่ยวชาญพิเศษด้านวิศวกรรมโยธา งานขุดเจาะอุโมงค์ และ ธรณีเทคนิคครบวงจร เปิดเผย  ผลประกอบการครึ่งปีแรก 2567 บริษัทมีรายได้รวม 1852 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากช่วงเดียวกันปีก่อนที่มีรายได้รวม 1459 ล้านบาท จำนวน 393 ล้านบาท หรือเพิ่มขึ้น 27% และมีกำไรสุทธิ 54 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากช่วงเดียวกันปีก่อนที่ขาดทุนสุทธิ 17 ล้านบาท

 

สาเหตุที่ผลประกอบการของบริษัทปรับตัวดีขึ้นทั้งรายได้และกำไรเมื่อเปรียบเทียบกับช่วงเดียวกันปีก่อน เนื่องจากการวางแผนการดำเนินงานที่มีประสิทธิภาพ โดยบริษัทสามารถบริหารงานก่อสร้างและส่งมอบงานโครงการได้ตามแผนงาน ส่งผลให้มีการรับรู้รายได้อย่างต่อเนื่อง อีกทั้งบริษัทยังสามารถบริหารต้นทุนก่อสร้างภายในโครงการ อาทิ ราคาวัสดุ แรงงาน และ พลังงาน เพื่อให้เพียงพอต่อการใช้งานในแต่ละพื้นที่ และ ลดการสิ้นเปลือง ส่งผลให้ความสามารถในการทำกำไรของบริษัทให้อยู่ในระดับที่ดีต่อเนื่อง

 

สำหรับทิศทางการดำเนินธุรกิจช่วงไตรมาส 3/2567 บริษัทยังคงมุ่งเน้นพัฒนาประสิทธิภาพการดำเนินงาน เพิ่มความก้าวหน้าของงานในมือ พร้อมเตรียมรับรู้รายได้จากการส่งมอบงานก่อสร้างประเภทต่าง ๆ อาทิ งานประเภทอุโมงค์ และ งานป้องกันและเสริมเสถียรภาพทางลาด (Slope Protection) โดยปัจจุบันบริษัทมีมูลค่างานในมือ (Backlog) จำนวน 7332 ล้านบาท ซึ่งส่วนใหญ่เป็นงานที่สะท้อนราคาต้นทุนปัจจุบันแล้ว และ สามารถทยอยรับรู้รายได้อย่างต่อเนื่องจนถึงปี 2570

 

“ภาพรวมอุตสาหกรรมก่อสร้างในช่วงครึ่งปีหลัง 2567 คาดว่าจะเริ่มทยอยเห็นสัญญาณการลงทุนจากภาครัฐมากขึ้น ภายหลังที่พระราชบัญญัติงบประมาณรายจ่ายประจำปี 2567 ได้ผ่านความเห็นชอบ ซึ่งถือได้ว่าเป็นโอกาสของบริษัทในการเข้ารับงานใหม่ ขณะเดียวกันบริษัทได้เร่งพัฒนาประสิทธิภาพการดำเนินงานอย่างต่อเนื่องในช่วงที่ผ่านมา และ เร่งส่งมอบงานโครงการที่สะท้อนราคาต้นทุนเดิมให้หมดไป อีกทั้งยังเตรียมความพร้อมด้านเครื่องมือทางการเงิน เพื่อรองรับโอกาสในการเข้าประมูลโครงการก่อสร้างขนาดใหญ่ และโครงการสาธารณูปโภคพื้นฐานอื่น ๆ ที่มีศักยภาพจากทั้งภาครัฐและเอกชนที่จะเปิดให้เข้าร่วมในอนาคต” นายชวลิต กล่าว