ธนาคารกรุงเทพ เร่งเครื่อง 3 เดือนสุดท้ายโครงการบริจาคโลหิต “80 แสนซีซี x2”

   เมื่อ : 19 ส.ค. 2567

ธนาคารกรุงเทพ เร่งเครื่องหนักช่วง 3 เดือนสุดท้าย ชวนพันธมิตร-ลูกค้า-ประชาชน ร่วมภารกิจ “ผู้ให้” บริจาคโลหิตผ่านกิจกรรม “80 แสนซีซี x2” โหมดึงผู้บริจาครายใหม่-ขาประจำ เพิ่มขึ้นต่อเนื่อง หวังช่วยสภากาชาดไทย อุดช่องว่างปริมาณโลหิตสำรองขาดแคลนหนัก พร้อมสานต่อบทบาท “เพื่อนคู่คิด มิตรคู่บ้าน” เคียงข้างสังคมไทยตลอด 80 ปีอย่างยั่งยืน

 

นางสาวพจณี คงคาลัย ผู้ช่วยผู้จัดการใหญ่ สายลูกค้าบุคคล ธนาคารกรุงเทพ จำกัด (มหาชน) ‘ธนาคารชั้นนำระดับภูมิภาค’ กล่าวว่า ธนาคารตระหนักถึงความสำคัญของการมีปริมาณโลหิตสำรองอย่างเพียงพอเป็นหนึ่งในปัจจัยสำคัญที่สามารถส่งต่อความช่วยเหลือสู่เพื่อนมนุษย์ เป็นที่มาของ “โครงการ 80 แสนซีซี 80 ปีธนาคารกรุงเทพ” ที่ได้เชิญชวนคนไทยร่วมกันเป็น “ผู้ให้” จนบรรลุเป้าหมายการเพิ่มยอดโลหิตสำรองให้แก่ศูนย์บริการโลหิตแห่งชาติ สภากาชาดไทย ได้ถึง 80 แสนซีซี (หรือ 8 ล้านซีซี) ไปในเดือนกุมภาพันธ์ 2567  ที่ผ่านมา และต่อยอดมาเป็นกิจกรรม “80 แสนซีซีx2” โดยยังคงเดินหน้าระดมความร่วมมือขององค์กรพันธมิตรชั้นนำต่างๆ ผู้บริหาร พนักงานธนาคาร และประชาชาชนทั่วไป จนถึงปัจจุบันสามารถระดมยอดบริจาคโลหิตผ่าน 12 ล้านซีซี (12003200 ซีซี ณ วันที่ 14 สิงหาคม 2567) จากผู้บริจาคทั้งหมด 30008 ราย

 

ทั้งนี้ กิจกรรมดังกล่าวได้การตอบรับจากหน่วยงานพันธมิตร ลูกค้าและประชาชนอย่างดีเยี่ยม จนทะลุเป้าหมายอย่างรวดเร็ว และยังประสบความสำเร็จในการเชิญชวนประชาชนเข้ามาเป็นผู้บริจาคโลหิตรายใหม่ได้มากถึง 26158 ราย หรือคิดเป็นร้อยละ 87.17 ของผู้บริจาคทั้งหมด นับเป็นการจุดประกายก่อนจะพัฒนาไปสู่การบริจาคอย่างสม่ำเสมอต่อไป ขณะที่ผู้บริจาครายเดิมก็มีแนวโน้มการบริจาคที่สม่ำเสมอมากขึ้น

 

“แม้จะมีผู้ร่วมบริจาคโลหิตผ่านโครงการนี้จำนวนมาก แต่ปริมาณโลหิตสำรองก็ยังคงไม่เพียงพอกับความต้องการใช้งาน ดังนั้น ในช่วงเวลาอีก 3-4 เดือน ก่อนจะส่งมอบโครงการในวันที่ 1 ธันวาคม 2567 อันเป็นวันครบรอบก่อตั้ง 80 ปี ธนาคารกรุงเทพ ในฐานะ “เพื่อนคู่คิด มิตรคู่บ้าน” ที่อยู่เคียงข้างสังคมไทยมาอย่างยาวนาน จึงขอเชิญชวนองก์กรต่างๆ ร่วมแบ่งปันพื้นที่ให้หน่วยรับบริจาคโลหิตเคลื่อนที่เข้าไปให้บริการ รวมถึงเชิญชวนบุคลากรในองค์กรและพื้นที่ใกล้เคียงมาร่วมบริจาคโลหิต ขณะที่ประชาชนสามารถร่วมบริจาคโลหิต ณ จุดให้บริการต่าง ๆ เพื่อร่วมกันบรรลุเป้าหมายแบบคูณสอง หรือ 16 ล้านซีซี และที่สำคัญคือได้ร่วมเป็นหนึ่งใน “ผู้ให้” ที่ยิ่งใหญ่ไปด้วยกัน” นางสาวพจณีกล่าว

 

นางสาวปิยนันท์ คุ้มครอง ผู้ช่วยผู้อำนวยการด้านจัดหาโลหิตและภาพลักษณ์องค์กร ศูนย์บริการโลหิตแห่งชาติ สภากาชาดไทย กล่าวว่า ในสถานการณ์ปกติ มีความต้องการใช้โลหิตสำรองไม่น้อยกว่า 2 แสนยูนิต ในเดือนกรกฎาคม 2567 (1-31 กรกฎาคม 2567) ที่ผ่านมา โรงพยาบาลทั่วประเทศได้ขอเบิกใช้โลหิตเฉลี่ยมายังศูนย์บริการโลหิตแห่งชาติเฉลี่ยวันละ 7200 ยูนิต แต่สามารถจ่ายโลหิตได้เฉลี่ยวันละ 3500 ยูนิต คิดเป็นร้อยละ 48.61 ของปริมาณโลหิตทั้งหมดที่สามารถจ่ายได้

 

ที่ผ่านมาศูนย์บริการโลหิตแห่งชาติได้จัดโครงการประชาสัมพันธ์และเชิญชวนประชาชนร่วมบริจาคโลหิตอย่างต่อเนื่อง รวมถึงมีแผนงานเชิงรุกเข้าเพื่อเข้าถึงผู้บริจาคที่มีคุณภาพและตรงตามกลุ่มเป้าหมาย เช่น กลุ่มจิตอาสาบริจาคโลหิต กลุ่มเยาวชน กลุ่มสตรี และกลุ่มโลหิตหมู่พิเศษ ตลอดจนเผยแพร่ความรู้เรื่องการบริจาคโลหิต ความพร้อมในการบริจาคโลหิต ผ่านช่องทางสื่อสารที่ทันสมัย เช่น เว็บไซต์และสื่อโซเชียลมีเดีย นอกจากนี้ยังได้ประสานความร่วมมือกับหน่วยงานภาครัฐและเอกชน เพื่อสร้างสรรค์โครงการและกระตุ้นการบริจาคโลหิตอย่างต่อเนื่องตลอดทั้งปี เช่นเดียวกับ “โครงการ 80 แสนซีซี 80 ปีธนาคารกรุงเทพ” ที่ได้รับความร่วมมืออย่างดียิ่งจากธนาคารกรุงเทพ เพื่อเชิญชวนผู้เข้าร่วมบริจาคโลหิตเป็นประจำทุกๆ 3 เดือน หรือปีละ 4 ครั้ง ซึ่งจะทำให้มีปริมาณโลหิตสม่ำเสมอ และเพียงพอแก่ความต้องการใช้ของผู้ป่วยในโรงพยาบาลทั่วประเทศ

 

“ในปีนี้ที่ธนาคารกรุงเทพได้จัดทำ “โครงการ 80 แสนซีซี 80 ปีธนาคารกรุงเทพ” นับว่ามีส่วนช่วยในการสื่อสารเพื่อกระตุ้นให้ประชาชนเข้าร่วมกิจกรรม ซึ่งได้รับปริมาณโลหิตสำรองเพิ่มมากขึ้น โดยเฉพาะผู้บริจาครายใหม่ที่เริ่มต้นให้ความสนใจจำนวนมาก ในขณะเดียวกันสภากาชาดไทย ได้ส่งข้อความขอบคุณหรือแจ้งเตือนล่วงหน้าให้กับผู้บริจาคโลหิตเมื่อครบกำหนดการบริจาค เพื่อเชิญชวนให้ประชาชนร่วมบริจาคโลหิตอย่างต่อเนื่อง อันจะส่งผลให้การจัดหาโลหิตสำรองมีความยั่งยืนในระยะยาว ทั้งนี้ขอเชิญชวนผู้ที่มีสุขภาพร่างกายแข็งแรง ร่วมบริจาคโลหิตเป็นประจำทุก 3 เดือน เพื่อให้มีปริมาณโลหิตสำรองคงคลังเพียงพอสำหรับช่วยเหลือผู้ป่วยทั่วประเทศได้อย่างทันท่วงที”  นางสาวปิยนันท์กล่าว