ผู้ถือหุ้น NDR อนุมัติเพิ่มทุนขาย PP จำนวน 110 ล้านหุ้น ให้ EG บ.ยักษ์ใหญ่ในมาเลเซีย

   เมื่อ : 26 ส.ค. 2567

ที่ประชุมวิสามัญผู้ถือหุ้นบมจ. เอ็น.ดี. รับเบอร์ หรือ  NDR อนุมัติเพิ่มทุนขาย PP จำนวน 110 ล้านหุ้น ให้กับ EG บ.ยักษ์ใหญ่ในมาเลเซีย ด้านเอ็มดี “ชัยสิทธิ์  สัมฤทธิวณิชชา” เผยนำเงินเพิ่มทุน ใช้เป็นเงินทุนหมุนเวียน รองรับการขยายธุรกิจในอนาคต ลุยจัดตั้งบริษัทย่อย ดำเนินธุรกิจอุตสาหกรรมอิเล็กทรอนิกส์ พร้อมวางเป้าปีนี้เทิร์นอะราวด์ รายได้แตะ 900-950 ล้านบาท

 

นายชัยสิทธิ์  สัมฤทธิวณิชชา กรรมการผู้จัดการ บริษัท เอ็น.ดี. รับเบอร์ จำกัด (มหาชน) หรือ NDR ผู้ผลิตและจำหน่ายยางนอกและยางในรถจักรยานยนต์ภายใต้แบรนด์ N.D.Rubber เปิดเผยว่า ที่ประชุมวิสามัญผู้ถือหุ้น ครั้งที่ 1/2567 มีมติอนุมัติการเพิ่มทุนจดทะเบียนของบริษัทแบบกำหนดวัตถุประสงค์ในการใช้เงินทุน จำนวน 110000000  ล้านหุ้น จากทุนจดทะเบียนเดิม 346891630 บาท เป็นทุนจดทะเบียนใหม่ 456891630 บาท เพื่อรองรับการออกและเสนอขายหุ้นสามัญเพิ่มทุนของบริษัทให้กับบุคคลในวงจำกัด (Private Placement) คือ บริษัท EG Industries Berhad  หรือ “EG”

 

ทั้งนี้ บริษัท EG Industries Berhad หรือ EG เป็นบริษัทจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ของประเทศมาเลเซีย ประกอบธุรกิจโดยมีรายได้มาจากการเข้าลงทุนธุรกิจและบริการเกี่ยวกับอุตสาหกรรม อิเล็กทรอนิกส์

 

บริษัทจะนำเงินที่ได้จากการเพิ่มทุนในครั้งนี้ไปใช้ เพื่อเป็นเงินทุนหมุนเวียนของบริษัท เพื่อรองรับการดำเนินงานของบริษัทในปัจจุบัน และเพื่อรองรับการขยายธุรกิจในอนาคต โดยบริษัทมีแผนการจัดตั้งบริษัทย่อยที่ประกอบธุรกิจเกี่ยวกับอุตสาหกรรมอิเล็กทรอนิกส์

 

กรรมการผู้จัดการ NDR กล่าวอีกว่า แผนธุรกิจในปีนี้ บริษัทฯคาดผลการดำเนินงานน่าจะสามารถพลิกฟื้นกลับมาเทิร์นอะราวด์ได้ โดยวางเป้ารายได้อยู่ที่ 900-950  ล้านบาท เนื่องจากการขยายพอร์ตสินค้า High Margin มากขึ้น  ซึ่งกลยุทธ์การดำเนินธุรกิจบริษัทยังคงให้ความสำคัญเรื่องการควบคุมต้นทุน รวมถึงการปรับโครงสร้างการขายสินค้าที่มีมาร์จิ้นสูงให้มีสัดส่วนมากขึ้น

 

ขณะที่ผลการดำเนินงานในไตรมาส 2/2567 มีรายได้รวมอยู่ที่ 215.31 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 5.06% จากช่วงเดียวกันของปีก่อนที่มีรายได้รวม 204.95  ล้านบาท และมีกำไรสุทธิอยู่ที่ 4.78 ล้านบาท คิดเป็นเพิ่มขึ้น 111.93% ช่วงเดียวกันของปีก่อนที่ขาดทุน 40.08 ล้านบาท สาเหตุการเติบโตมาจากยอดขายในประเทศที่เพิ่มชึ้น โดยมีรายได้จากราคาขายเฉลี่ยเพิ่มขึ้น เนื่องจากสัดส่วนรายได้จากยางขนาดใหม่ๆที่มีกำไรต่อเส้นมากขึ้น