JMART และ J Ventures ประกาศปิดดีลลงทุนใน “เวก้าครีเอเตอร์”

   เมื่อ : 29 ส.ค. 2567

JMART - J Ventures ลุยขยายการเติบโตผ่านเครือข่ายครีเอเตอร์ สะเทือนวงการขาย ในรูปแบบ Multi-Channel Network (MCN) ประกาศเข้าลงทุนใน บริษัท เวก้าครีเอเตอร์ (ไทยแลนด์) จำกัด หรือ VEGA Creator รวมสัดส่วนถือหุ้น  30% ตามเงื่อนไขที่ตกลงกัน โดยเป็นการเข้าซื้อหุ้นเดิม และเพิ่มทุนใน VEGA ซึ่งประกอบธุรกิจแบบเชื่อมโยงระหว่าง Creator และ Influencer กับ Social Media E Commerce Platform โดยมีแกนนำหลักคือ คุณตี๋โอ – นายวุฒิพงษ์ ลิขิตชีวัน ผู้ที่สร้างสถิติทำ Live Commerce ไลฟ์ขายของทะลุ 22 ล้านบาทได้ในครั้งเดียว มาช่วยหนุนความสำเร็จในการเพิ่มยอดขาย  ซึ่งการลงทุนครั้งนี้จะช่วยผลักดันศักยภาพธุรกิจค้าปลีกของกลุ่ม JMART ตามวิสัยทัศน์การเป็นบริษัท CommerceTech ในอนาคต

 

นายเอกชัย สุขุมวิทยา รองประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เจมาร์ท กรุ๊ป โฮลดิ้งส์ จำกัด (มหาชน) (JMART) บริษัทโฮลดิ้งที่เน้นการลงทุนเพื่อสร้างผลประกอบการในกลุ่มธุรกิจ Commerce และ Finance เปิดเผยว่า การเข้าลงทุนใน VEGA Creator ครั้งนี้ บริษัทฯ มีเป้าหมายเพื่อสร้าง New Jaymart ตามวิสัยทัศน์ของกลุ่มที่จะต้องรุกเข้าสู่รูปแบบการขายที่แตกต่าง และเข้าถึงผู้บริโภคกลุ่มใหม่ สร้างโอกาสทางการตลาด ภายใต้ Ecosystem และพาร์ทเนอร์ที่มีความเชี่ยวชาญ ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของการผลักดัน Commerce Tech ที่จะสร้างรูปแบบการค้าปลีกในกลุ่มให้ทันสมัย เข้าสู่ Gen Z และ Alpha ที่มีประสบการณ์ในการช้อปปิ้งบนสื่อออนไลน์ประเภทต่างๆ ทั้งนี้ JMART มี Ecosystem พร้อมที่จะสนับสนุนการเติบโตของ VEGA Creator ทั้งในด้านเงินทุน เทคโนโลยี การบริหารจัดการ เพื่อเตรียมสร้างกลุ่ม MCN ที่แข็งแรงให้กับประเทศไทยในอนาคต

 

“กระแสการซื้อสินค้าผ่าน Social Media Platform เช่น TikTok YouTube Shopee Lazada กำลังมาแรง ผู้บริโภคในประเทศให้การตอบรับค่อนข้างมาก ผ่านทั้ง Affiliate Program ต่างๆ บน Platform การสร้างยอดขายในช่องทางเหล่านี้เป็นสิ่งจำเป็นที่ต้องปรับเปลี่ยนแนวการขาย ให้เข้าสู่กลุ่มผู้บริโภคมากขึ้น การขายมือถือหรืออุปกรณ์เสริม เป็นเพียงจุดเริ่มต้นของกลุ่มเท่านั้น เพราะ MCN ขายอะไรก็ได้ที่ตอบโจทย์ ให้ตรงกับความต้องการของผู้บริโภค ในอนาคตอาจเห็น JMART มาไลฟ์ขายบ้าน ขายสินค้า Lifestyle อื่นๆ ที่สร้างยอดขายได้เพิ่มขึ้น” นายเอกชัย สุขุมวิทยา กล่าว

 

นายธนวัฒน์ เลิศวัฒนารักษ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เจ เวนเจอร์ส จำกัด (J Ventures)  ผู้นำในการทำ Digitization (DX) และ Digital First (DF) ให้กับกลุ่มบริษัทเจมาร์ท เปิดเผยว่า การเข้าลงทุนครั้งนี้ของ J Ventures จะเข้าซื้อหุ้นสามัญจำนวน 20055 หุ้น หรือคิดเป็นร้อยละ 8.81 ของจำนวนหุ้นที่จำหน่ายแล้วทั้งหมดของ VEGA Creator รวมเป็นเงิน 9 ล้านบาท และ JMART จะเข้าซื้อหุ้นสามัญจำนวน 40110 หุ้น หรือคิดเป็นร้อยละ 17.62 ของจำนวนหุ้นที่จำหน่ายแล้วทั้งหมดของ VEGA รวมเป็นเงิน 18 ล้านบาท ทั้งนี้ ภายใต้ข้อตกลงจะทำให้ JMART และ J Ventures จะเข้าถือหุ้น VEGA Creator ในสัดส่วนร้อยละ 30 ตามเงื่อนไขและข้อตกลงในสัญญาการเข้าลงทุน และสัญญาผู้ถือหุ้นที่ได้ลงนามกันตามที่ได้รับอนุมัติจากที่ประชุมคณะกรรมการบริษัท

 

สำหรับการลงทุนครั้งนี้ เป็นไปตามแนวทางการทำ Digitization ของกลุ่ม JMART ที่ J Ventures ได้เป็นแกนนำหลักในการเข้ามาปฏิวัติการคิดใหม่ ทำใหม่ ในธุรกิจของกลุ่มบริษัท และจากการลงทุนครั้งนี้ คาดว่าจะมียอดขายในกลุ่ม Commerce Tech เพิ่มขึ้นอย่างชัดเจน โดยที่ผ่านมาได้เริ่มโครงการกันไปแล้ว ทั้งแคมเปญ 7.7 และ 8.8 ซึ่งโกยยอดขายได้ตามเป้าหมาย

 

นายวุฒิพงษ์ ลิขิตชีวัน ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เวก้าครีเอเตอร์ (ไทยแลนด์) จำกัด (VEGA Creator) หรือ ตี๋โอ ผู้ที่สร้างปรากฏการณ์ทำ Live Commerce ของเมืองไทย เปิดเผยว่า ยินดีอย่างยิ่งในการเข้ามาช่วยเสริม MCN ให้กับกลุ่มบริษัทเจมาร์ท เนื่องจาก เป็นบริษัทจดทะเบียน และเป็นผู้จัดจำหน่ายสินค้าเทคโนโลยีให้กับแบรนด์มือถือ สินค้าอิเล็กทรอนิกส์ และอุปกรณ์เสริมต่างๆ จากแบรนด์ชั้นนำทั่วโลก จึงเชื่อว่าทาง VEGA Creator จะได้โอกาสทั้งในด้านของ Supply Chain Technology พื้นที่ทำเลดี และมีสิทธิประโยชน์ให้กับผู้บริโภคเพิ่มขึ้น เช่น การสะสมคะแนน J Point  โดยคนซื้อจะได้รับความคุ้มค่า ครีเอเตอร์ และ VEGA Creator จะได้รับค่าตอบแทน ส่วนแบรนด์ก็ได้รับผลกำไรจากยอดขาย เรียกได้ว่า Win – Win - Win ทุกฝ่าย เกิดเป็นธุรกิจที่สามารถเติบโตไปด้วยกันได้อย่างยั่งยืน

 

ขณะที่ จุดเด่นของ VEGA Creator คือ Ecosystem ที่สนับสนุนแบรนด์และครีเอเตอร์ผ่านแพลตฟอร์มพาร์ทเนอร์ เช่น TikTok Shopee Lazada รวมทั้ง แพลตฟอร์มใหม่ๆ ที่จะเข้ามาเพิ่มขึ้น สามารถเชื่อมโยง Ecosystem เหล่านี้ด้วย VEGA Application และใช้เทคโนโลยีขับเคลื่อน อาทิ  VEGA AI ทำให้ครีเอเตอร์ทำงานง่ายขึ้น ขณะที่แบรนด์มีโอกาสเพิ่มยอดขาย

 

“จากประสบการณ์ที่ผ่านมาของตัวผมเอง ผมได้เห็นว่าในอนาคต ของการขายสินค้า หนึ่งคีย์สำคัญ ในการเพิ่มยอดขายให้กับแบรนด์ได้นั่นคือ ครีเอเตอร์  VEGA Creator คือบริษัทที่รวบรวมครีเอเตอร์ ที่เน้นขายสินค้า หรือที่เรียกว่า Commerce Tech เข้าด้วยกัน ปัจจุบันเราเรียกธุรกิจลักษณะแบบนี้ว่า “MCN” รวมถึงประสบการณ์โดยตรงตัวผม ที่สร้างไลฟ์ประวัติศาสตร์ 22 ล้านบาทใน 1 ไลฟ์ซึ่งสามารถสนับสนุนความรู้ เทคนิคต่างๆ ให้ครีเอเตอร์ ได้โดยตรง  ซึ่งสิ่งเหล่านีส่งผลลัพธ์ให้ ในระยะเวลา 1 ปีกว่า เกิดยอดขาย (GMV) มากกว่า 1000 ล้านบาท และในไตรมาสถัดๆ ไป ทาง VEGA Creator จะเร่งขยายทั้งในด้านทีมงาน และทั้งในด้านเชิงโครงสร้าง ที่จะอำนวยความสะดวกให้ครีเอเตอร์มากขึ้น ครอบคลุมทั้งใน กทม. ปริมณฑล และหัวเมืองต่างๆ เพื่อรองรับการเพิ่มโอกาสให้กับการสร้างครีเอเตอร์เพิ่มมากขึ้น และในท้ายที่สุด ก็จะเป็นการเพิ่มยอดขายให้กับแบรนด์ และสินค้าต่างๆ มากขึ้น สามารถเติบโตด้วยการตลาดและการขายยุคใหม่ ภายใต้ต้นทุนที่คุ้มค่า” นายวุฒิพงษ์ กล่าวทิ้งท้าย