SINGER คืนเงินหุ้นกู้ระยะสั้น 400 ลบ. พร้อมดอกเบี้ยตามกำหนด

   เมื่อ : 18 ก.ย. 2567

SINGER เดินหน้าคืนเงินกู้ระยะสั้นพร้อมดอกเบี้ย วงเงิน 400 ล้านบาท ตามกำหนด และเตรียมควักกระเป๋าไถ่ถอนหุ้นกู้อีก 2000 ล้านบาท ไว้เรียบร้อย พร้อมเดินหน้าขยายธุรกิจตามแผน ชูสินเชื่อ SG Finance เติบโตกระโดด พร้อมต่อยอดแคมเปญ Lock เครื่องใช้ไฟฟ้า และขยายเครือข่ายต่อเนื่อง ร่วมแคมเปญ ตี๋โอ จับมือครีเอเตอร์ปั้นยอด

 

นายนราธิป วิรุฬห์ชาตะพันธ์ กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท ซิงเกอร์ประเทศไทย จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า บริษัทดำเนินการชำระหุ้นกู้คืนที่ได้ออกและเสนอหุ้นกู้ระยะสั้นที่มีประกันครั้งที่ 1/2567 วงเงิน 400 ล้านบาท อัตราดอกเบี้ย 6.5% ต่อปี เสนอขายต่อนักลงทุนสถาบันและนักลงทุนรายใหญ่ ซึ่งครบกำหนดไถ่ถอนในวันที่ 17 กันยายน 2567 โดยบริษัทได้ชำระคืนพร้อมดอกเบี้ยให้กับผู้ถือหุ้นกู้ทั้งหมดเรียบร้อยแล้ว ทั้งนี้ SINGER เตรียมเงินสำรองที่จะชำระคืนหุ้นกู้ที่จะครบกำหนดไถ่ถอนในวันที่24 กันยายนนี้ จำนวนเงิน 2000 ล้านบาท เป็นที่เรียบร้อยด้วยเช่นกัน และคงเหลือหุ้นกู้ล็อตสุดท้ายที่จะครบกำหนดในไตรมาส 1 ปี 2568 ทำให้ภาพรวมต้นทุนการเงินลดลง และความสามารถการทำกำไรที่ดีขึ้นตามลำดับ  

 

อย่างไรก็ดี ภาพรวมผลการดำเนินงานของกลุ่มบริษัท ที่มุ่งเน้นการทำธุรกิจ Lock Phone จากการปล่อยสินเชื่อโทรศัพท์มือถือ ผ่าน SG Finance ภายใต้ บริษัท เอสจี แคปปิตอล จำกัด (มหาชน) หรือ SGC (บริษัทย่อย) เห็นได้ว่า แนวโน้มเป็นไปในทางที่ดีขึ้นเป็นอย่างมาก ให้ผลตอบแทนดี มีการเติบโตแบบก้าวกระโดด สามารถควบคุมความเสี่ยง มีหนี้เสีย (NPL) อยู่ในระดับที่ต่ำมาก มีความสามารถในการทำกำไรที่เพิ่มขึ้น และ D/E ต่ำลง

 

ในด้าน SINGER มุ่งเน้นการต่อยอด โดยนำสินเชื่อ SG Finance มาช่วยขยายเครือข่ายการขาย ลดกระบวนการขั้นตอนการทำเอกสาร ลดปริมาณการใช้กระดาษ เพิ่มความรวดเร็วในการให้บริการ ตั้งแต่กระบวนการขอสินเชื่อ การพิจารณา และการอนุมัติ ด้วยแพลตฟอร์มที่ทันสมัย ในไตรมาส 3 และไตรมาส 4 ปีนี้ บริษัทฯ ได้ขยายพอร์ตจัดจำหน่ายเครื่องใช้ไฟฟ้ามัลติแบรนด์ รวมทั้ง นำแคมเปญ Lock มาใช้ในสินค้ากลุ่มเครื่องใช้ไฟฟ้า เริ่มต้นที่กลุ่มโทรทัศน์ และกำลังเพิ่มไปยังกลุ่มเครื่องซักผ้า และจักรยานไฟฟ้า สะท้อนการนำเทคโนโลยีมาใช้เพื่อให้ SINGER สเกลได้ และขยายเครือข่ายผ่านสาขาและพาร์ทเนอร์ของ SINGER ช่วยขยายการเติบโตของธุรกิจ ด้วยความเสี่ยงที่รัดกุม

 

นอกจากนี้ การขยาย Multi-Channel Network กับครีเอเตอร์ชั้นนำ ภายหลังจากกลุ่มเจมาร์ทจับมือกับ VEGA Creator หรือ ตี๋โอ ผู้สร้างปรากฏการณ์ทำ Live Commerce ของเมืองไทย รับกระแสการซื้อสินค้าผ่าน Social Media Platform ซึ่ง SINGER ก็เข้ามาร่วมโครงการนี้ด้วย เพื่อนำเสนอสินค้าและบริการด้วยช่องทางที่มีประสิทธิภาพ และต้นทุนต่ำ ทำให้เข้าถึงกลุ่มเป้าหมายได้ง่ายและรวดเร็วขึ้น คาดว่าจะเห็นความชัดเจนในไตรมาส 4