บมจ.ไทยฟู้ดส์ กรุ๊ป (TFG) มั่นใจผลการดำเนินงานผ่านจุดต่ำสุด ปักหมุดปี 2567 รายได้โต 10% รับอานิสงส์ราคาสุกรฟื้นตัวตั้งแต่ปลายปี 2566 และปัญหาสุกรเถื่อนที่ลดลง  คาดยอดขายในเวียดนามพุ่ง 20-25% จากการขยายฟาร์มในปีก่อน ต้นทุนวัตถุดิบเริ่มลด ฟากผู้บริหาร" เพชร นันทวิสัย" ระบุการเปิด Retail Shop ช่วยเพิ่มรายได้บริษัท หนุนผลงานพลิกมีกำไร พร้อมแจก TFG-W4 ฟรี! ในอัตรา 10 หุ้นสามัญเดิมต่อ 1 วอร์แรนท์ ราคาใช้สิทธิ 3.80 บาท/หุ้น รองรับแผนขยายธุรกิจ  เพิ่มโอกาสการเติบโตในอนาคต

นายเพชร นันทวิสัย ประธานเจ้าหน้าที่ปฏิบัติการ บริษัท ไทยฟู้ดส์ กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) (TFG) เปิดเผยว่า แผนการดำเนินงานของบริษัทในปี 2567 ตั้งเป้าหมายรายได้เติบโต 10% เทียบปีที่ผ่านมามีรายได้รวม 55871 ล้านบาท และมั่นใจว่าผลการดำเนินงานได้ผ่านจุดต่ำสุดไปแล้ว จากปีที่ผ่านมาขาดทุนสุทธิ 812.5 ล้านบาท เนื่องจากได้รับผลกระทบจากราคาสุกรที่ลดลง จากปัญหาลักลอบนำเข้าสุกรเถื่อน รวมไปถึงต้นทุนวัตถุดิบที่ปรับตัวสูงขึ้น

“มั่นใจว่าผลการดำเนินงานของ TFG ได้ผ่านจุดต่ำสุดไปแล้ว โดยจะเริ่มฟื้นตัวตั้งแต่ไตรมาส 1/2567 โดยได้รับปัจจัยหนุนจากราคาสุกรที่ปรับตัวดีขึ้นทั้งในส่วนของราคาสุกรในประเทศ หลังจากรัฐบาลเดินหน้าปราบปรามสุกรเถื่อน ขณะที่ราคาสุกรในเวียดนามเข้าสู่ช่วงขาขึ้นรอบใหม่ จากซัพพลายที่ลดลง โดยตั้งเป้ายอดขายสุกรในเวียดนามเพิ่มขึ้น 20-25% เทียบปีที่ผ่านมา  ประกอบกับบริษัทมีการบริหารจัดการภายในทั้งในส่วนของการบริหารจัดการวัตถุดิบ  เพิ่มประสิทธิภาพการเลี้ยง และราคาวัตถุดิบที่มีแนวโน้มลดลง”

ขณะที่ในส่วนของ ร้าน "ไทยฟู้ดส์ เฟรช มาร์เก็ต" (Retail Shop) ปัจจุบันมี 350 สาขา โดยปี 2567 วางเป้าแต่ละสาขามียอดขายประมาณ 130000-150000 บาท/วัน หนุนรายได้ปรับตัวเพิ่มขึ้น

นอกจากนี้ ที่ประชุมคณะกรรมการบริษัทฯในวันที่ 21 กุมภาพันธ์ 2567 ที่ผ่านมา มีมติอนุมัติเพิ่มทุนจดทะเบียน 581.08 ล้านบาท จากทุนจดทะเบียน 6168.33 ล้านบาท เป็น 6749.41 ล้านบาท โดยออกหุ้นสามัญเพิ่มทุนใหม่ 581.08 ล้านหุ้น มูลค่าที่ตราไว้หุ้นละ 1 บาท เพื่อรองรับการใช้สิทธิตามใบสำคัญแสดงสิทธิที่จะซื้อหุ้นสามัญของบริษัท ครั้งที่ 4 (TFG-W4) ที่จัดสรรให้ผู้ถือหุ้นเดิมในอัตรา ในอัตราส่วน 10 หุ้นสามัญเดิมต่อใบสำคัญแสดงสิทธิ TFG-W4  1 หน่วย มีกำหนดอายุ 3 ปี นับจากวันที่ออก ราคาใช้สิทธิ  3.80 บาท/หุ้น

สำหรับวัตถุประสงค์การออกหุ้นสามัญเพิ่มทุนในครั้งนี้ เพื่อเพิ่มความแข็งแกร่งทางการเงินให้กับบริษัท รองรับแผนการขยายธุรกิจ เพื่อให้มีผลประกอบการที่ดีขึ้น โดยกำหนดรายชื่อผู้ถือหุ้นในวันที่ 2 พฤษภาคม 2567 ทั้งนี้ บริษัทจะนำเสนอต่อที่ประชุมผู้ถือหุ้นประจำปี 2567 ในวันที่ 23 เมษายน 2567