NDR ลุยติดตั้งเครื่องทดสอบ โรงงาน Testing Center อุปกรณ์ 5G

   เมื่อ : 24 ต.ค. 2567

บมจ. เอ็น.ดี. รับเบอร์ หรือ NDR ลุยติดตั้งเครื่องทดสอบ Testing Center อุปกรณ์ 5G มั่นใจเสริมพอร์ตรายได้แกร่ง สร้างความยั่งยืนในอนาคต ด้านเอ็มดี “ชัยสิทธิ์  สัมฤทธิวณิชชา” มองตลาดการทดสอบอุปกรณ์สำหรับ 5G และ Data Center มีศักยภาพในการเติบโต พร้อมวางเป้าผลงานปีนี้เทิร์นอะราวด์ ปักธงรายได้ 900 ลบ.

 

นายชัยสิทธิ์  สัมฤทธิวณิชชา กรรมการผู้จัดการ บริษัท เอ็น.ดี. รับเบอร์ จำกัด (มหาชน) หรือ NDR ผู้ผลิตและจำหน่ายยางนอกและยางในรถจักรยานยนต์ภายใต้แบรนด์ N.D.Rubber  เปิดเผยว่า สำหรับความคืบหน้าการลงทุนในธุรกิจใหม่ที่เกี่ยวกับอุตสาหกรรมอิเล็กทรอนิกส์ ภายใต้การดำเนินงานโดยบริษัทย่อย คือ บริษัท เอ็กซ์โทรนิค จำกัด นั้น ขณะนี้กำลังอยู่ระหว่างทยอยติดตั้งเครื่องทดสอบ ซึ่งคาดว่าจะติดตั้งแล้วเสร็จภายในปี 2567 นี้ และจะเริ่มรับรู้รายได้เข้ามาประมาณไตรมาส 1 หรือ 2 ของปี 2568 เป็นต้นไป

 

บริษัทย่อยแห่งใหม่นี้ จะตรวจสอบและทดสอบชิ้นส่วนอิเล็กทรอนิกส์ที่รองรับระบบเครือข่าย 5G และอุปกรณ์อินเทอร์เน็ตไร้สาย เพื่อเจาะตลาด 5G ที่เติบโตอย่างรวดเร็ว รวมถึงอุปกรณ์ที่ต้องใช้ในData Center ต่าง ๆ ที่กำลังขยายตัวอย่างรวดเร็ว คาดว่าจะช่วยเสริมความแข็งแกร่งให้กับบริษัทฯ และกระจายฐานรายได้ของธุรกิจ สร้างการเติบโตที่สำคัญอย่างแข็งแกร่งในอนาคต

 

"เรามองว่าศักยภาพของตลาดอุปกรณ์ทดสอบ 5G กำลังเติบโตอย่างรวดเร็ว เนื่องจากการขยายตัวของเครือข่าย 5G และ Data Center ทั่วโลก ซึ่งเราจะเป็นส่วนหนึ่งในแรงผลักดันสำคัญในการพัฒนาโซลูชั่นส์ทดสอบเพื่อให้อุปกรณ์ที่ต้องไปใช้ในเครือข่าย 5G และ Data Center ต่าง ๆ ทำงานได้อย่างเต็มประสิทธิภาพสูงสุด และนำเทคโนโลยีเข้ามาพัฒนาเพื่อเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขัน” นายชัยสิทธิ์ กล่าว

 

นายชัยสิทธิ์ กล่าวทิ้งท้ายว่า  สำหรับภาพรวมธุรกิจในปีนี้ คาดว่าผลการดำเนินงานจะสามารถพลิกฟื้นกลับมาเทิร์นอะราวด์ได้ โดยวางเป้ารายได้อยู่ที่ 900 ล้านบาท โดยยังคงโฟกัสกลุ่มธุรกิจหลักในการผลิตและจำหน่ายยางในและยางนอกรถจักรยานยนต์ ซึ่งตลาดยางรถจักรยานยนต์ในประเทศและต่างประเทศ ยังสามารถเติบโตได้อย่างดี ซึ่งบริษัทฯส่งออกยางรถจักรยานยนต์ไปยังหลายประเทศ โดยตลาดหลักอยู่ในภูมิภาคเอเชีย เช่น จีน และประเทศกลุ่ม CLMV (กัมพูชา ลาว เมียนมาร์ เวียดนาม) ซึ่งเป็นตลาดที่มีศักยภาพในการเติบโต นอกจากนี้ บริษัทฯได้มีแผนการขยายพอร์ตสินค้า High Margin มากขึ้น  และให้ความสำคัญเรื่องการควบคุมต้นทุนให้มีประสิทธิภาพสูงสุด รวมถึงการปรับโครงสร้างการขายสินค้าที่มีมาร์จิ้นสูงให้มีสัดส่วนมากขึ้น