MEDEZE ขานรับกฎระเบียบ Stem Cell ของแพทยสภา มั่นใจระบบจัดเก็บได้มาตรฐาน นำไปใช้ตามประกาศสธ.
“เมดีซ กรุ๊ป” ขานรับกฎหมาย และกฎระเบียบที่เกี่ยวกับ Stem Cell แพทยสภา มั่นใจระบบจัดเก็บได้มาตรฐานสากล และลูกค้านำไปใช้งานตามประกาศกระทรวงสาธารณสุข และมาตรฐานการให้บริการด้านเซลล์ทางการแพทย์ของสถานพยาบาล
บริษัท เมดีซ กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) หรือ MEDEZE ซึ่งเป็นบริษัทจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย เปิดเผยว่า ภายหลังจากการจัดการประชุมชวนหมอรู้ข้อกำหนดเกี่ยวกับการใช้ Stem Cell ที่จัดขึ้นร่วมกันระหว่างกระทรวงสาธารณสุข แพทยสภา กรมสนับสนุนบริการสุขภาพ และสำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา ซึ่งแพทยสภามีความห่วงใย และต้องการส่งเสริมให้มีการใช้ Stem Cell เป็นวงกว้าง ภายใต้เงื่อนไขที่ใช้ในการรักษาโรค ซึ่งได้รับการยอมรับในมาตรฐานจากนานาชาติแล้วเท่านั้น ไม่เช่นนั้นจะเข้าข่ายหลอกลวงผู้ป่วยให้ได้รับการรักษาในสิ่งที่ยังไม่ได้รับการยืนยันทางการแพทย์ว่าได้ผลจริง โดยในปัจจุบันมีกฎหมายที่เกี่ยวข้องกับการใช้ Stem Cell หลักที่ดูแลอยู่ 2 หน่วยงาน ได้แก่ กระทรวงสาธารณสุข และแพทยสภา ซึ่งตามประกาศกระทรวงสาธารณสุข มาตรฐานการให้บริการด้านเซลล์ทางการแพทย์ของสถานพยาบาลเฉพาะกรณีการใช้เซลล์เพื่อการบำบัดรักษา พ.ศ.2565 ในประกาศฉบับนี้ไม่ใช่แค่ Stem Cell แต่ยังรวมถึงเซลล์ใดก็ตามที่ใช้กับมนุษย์ในทางการแพทย์ โดยขณะนี้มีโรคเพียง 2 กลุ่มเท่านั้นที่ใช้ในการรักษา ได้แก่ โรคเลือด และโรคทางดวงตา ดังนั้น หากมีการอวดอ้างในการใช้ Stem Cell รักษาโรคอื่น เช่น ความสวยงาม โรคตับ โรคไต โรคหัวใจ ถือว่าผิดมาตรฐาน และประกาศของกระทรวงสาธารณสุขทั้งหมด
โดยที่ผ่านมาบริษัทยืนยันว่าได้ติดตาม ศึกษา และพัฒนาการให้บริการให้เป็นไปตามข้อกฎหมาย ตลอดจนกฎระเบียบต่าง ๆ ในการนำ Stem Cell ไปใช้งาน ซึ่ง MEDEZE เป็นเพียงผู้ให้บริการตรวจวิเคราะห์ คัดแยก เพาะเลี้ยง และรับฝากเซลล์ต้นกำเนิด หรือ Stem Cell และตรวจศักยภาพเซลล์ภูมิคุ้มกัน หรือ NK Cell เพียงเท่านั้น ไม่ใช่ผู้ประกอบการที่ดำเนินการในการนำ Stem Cell ไปใช้งานแต่อย่างใด ซึ่ง MEDEZE มีห้องปฏิบัติการปลอดเชื้อระดับคลีนรูม คลาส 100 พร้อมด้วยอุปกรณ์และเทคโนโลยีที่มีความทันสมัยในวงการธนาคารจัดเก็บเซลล์ต้นกำเนิด หรือ Stem Cell Banking เข่นระบบการแช่แข็งในถังไนโตรเจนเหลว เครื่องคัดแยกเซลล์ต้นกำเนิดเม็ดโลหิตอัตโนมัติ หรือ Auto Xpress และเครื่องเพาะเลี้ยงเพิ่มจำนวนเซลล์ต้นกำเนิดมีเซนไคมอลชนิดอัตโนมัติ หรือ Quantum ที่ได้รับมาตรฐานการจัดเก็บแช่แข็งในระดับสากล Association for the Advancement of Blood and Biotherapies (AABB) จากประเทศสหรัฐอเมริกา ซึ่งเป็นหน่วยงานที่ให้การรับรองมาตรฐานการดำเนินงานของธนาคารสเต็มเซลล์ที่เข้มงวด เป็นมาตรฐานระบบคุณภาพสากลตามข้อกำหนดขององค์การอาหารและยา สหรัฐอเมริกา หรือ U.S.FDA ซึ่งครอบคลุมกิจกรรมในส่วนที่เกี่ยวข้องกับเลือดจากสายสะดือตั้งแต่การจัดเก็บในระยะยาว ไปจนถึงการกระจายขนส่งเพื่อรองรับการรักษาให้กับผู้ป่วยทั่วโลก และมาตรฐานห้องปฏิบัติการคุณภาพ Clean Room Class 100 ตั้งแต่ปี 2556 โดย National Environmental Balancing Bureau หรือ NEBB จากประเทศสหรัฐอเมริกา ซึ่งเป็นมาตรฐานควบคุมอนุภาค ความดัน และอุณหภูมิภายในห้องปฏิบัติการอย่างเหมาะสม
“บริษัทเป็นเพียงผู้ให้บริการในการตรวจวิเคราะห์ คัดแยก เพาะเลี้ยงเท่านั้น มิใช่สถานพยาบาลแต่อย่างใด ซึ่งการให้บริการรับฝากเซลล์ต้นกำเนิดของบริษัทนั้น บริษัทจะทำการตรวจสภาพเซลล์ พร้อมทั้งคัดแยก และเพาะเลี้ยงตามมาตรฐานทางการแพทย์ รวมถึงมาตรฐานธนาคารเซลล์ของประเทศไทย ซึ่งการนำเซลล์ต้นกำเนิดไปใช้ในการรักษาโรคนั้นจะนำไปใช้เฉพาะบุคคลที่เป็นเจ้าของเซลล์ต้นกำเนิดซึ่งได้จัดเก็บกับทางบริษัทเท่านั้น ซึ่งบริษัทก็สนับสนุนการนำ Stem Cell ไปใช้งานอย่างถูกกฎหมายมาโดยตลอด ในขณะที่การนำ Stem Cell ไปใช้งานนั้นจะเป็นความรับผิดชอบร่วมกันของลูกค้าที่จะต้องนำไปใช้งานร่วมกับสถานพยาบาลชั้นนำที่อยู่ภายใต้การควบคุมดูแล และอยู่ภายใต้กฎหมาย กฎระเบียบ และประกาศของกระทรวงสาธารณสุขอยู่แล้ว ซึ่งบริษัทเองก็มีความแข็งแกร่งในด้านเครือข่ายแพทย์ในสถานพยาบาลชั้นนำทั่วประเทศ จึงมั่นใจได้ว่าลูกค้าที่มาใช้บริการกับทาง MEDEZE จะได้รับการบริการตรวจวิเคราะห์ คัดแยก เพาะเลี้ยง และรับฝากเซลล์ต้นกำเนิด หรือ Stem Cell และตรวจศักยภาพเซลล์ภูมิคุ้มกัน หรือ NK Cell ที่ถูกต้องตามกฎหมาย และกฎระเบียบที่เกี่ยวข้อง ตลอดจนเป็นไปตามมาตรฐานในระดับสากล และเมื่อลูกค้านำ Stem Cell ไปใช้งาน ก็จะถูกตรวจสอบ และดำเนินการให้เป็นไปตามที่กฎหมายกำหนด และกฎระเบียบที่เกี่ยวข้องโดยสถานพยาบาลด้วยเช่นกัน
นอกจากนี้ บริษัทได้ให้ความสำคัญ และตระหนักเป็นอย่างดีเกี่ยวกับการโฆษณา หรือการประชาสัมพันธ์ใดๆที่เกี่ยวข้องกับการประกอบกิจการของบริษัท โดยบริษัทได้กำหนดมาตรฐานการโฆษณา และประชาสัมพันธ์ข้อมูลการให้บริการของบริษัท ซึ่งจัดให้มีนโยบายการควบคุมการโฆษณา ทั้งนี้นโยบายดังกล่าวบริษัทได้อ้างอิงตามหลักเกณฑ์ในกฎหมายสถานพยาบาล และบริษัทมีการตั้งคณะทำงานบริหารความเสี่ยงเพื่อให้เข้ามาทำการควบคุมในเรื่องการโฆษณาประชาสัมพันธ์ ซึ่งคณะทำงานดังกล่าวได้ทำงานร่วมกันกับผู้บริหาร พนักงาน และมีการรายงานต่อคณะกรรมการบริษัทให้รับทราบ เพื่อป้องกันมิให้เป็นการขัดต่อกฎหมายที่มีอยู่ในปัจจุบันรวมถึงที่อาจจะมีการตราขึ้น และมีผลใช้บังคับในอนาคต
บริษัทขอให้ผู้ถือหุ้น นักลงทุน และผู้ที่เกี่ยวข้องทุกฝ่ายโปรดให้ความเชื่อมั่น และไว้วางใจบริษัท ว่าบริษัทจะไม่กระทำการใดๆอันเป็นการขัดต่อกฎหมาย กฎ ระเบียบ ข้อบังคับ รวมถึงประกาศใดๆที่อยู่ภายใต้หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เช่นกระทรวงสาธารณสุข แพทยสภา องค์การอาหารและยา (อ.ย.) เป็นต้น รวมถึงการประกอบกิจการภายใต้หลักธรรมาภิบาลที่ดี โปร่งใส และสามารถตรวจสอบได้”