NAT เผยผลประกอบการงวด 9 เดือนปี 67 รายได้รวม 1904.22 ล้านบาท กำไรสุทธิ 151.58 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 55.47% อัตรากำไรสุทธิ 7.96% ด้านทิศทางธุรกิจไตรมาส 4/2567 มุ่งเน้นพัฒนาประสิทธิภาพการให้บริการ เพิ่มบุคลากรผู้เชี่ยวชาญ และ บริการระบบเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสารที่ครอบคลุม ขยายฐานลูกค้าภาครัฐและเอกชน ตุน Backlog 580.58 ล้านบาท มั่นใจรายได้ปีนี้เติบโตตามเป้า 30%

นายสุธี อภิชนรัตนกร ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท แนท แอบโซลูท เทคโนโลยีส์ จำกัด (มหาชน) หรือ NAT ผู้เชี่ยวชาญด้าน Infratech ส่วนงานโครงสร้างระบบเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร และการให้บริการด้านเทคโนโลยีครบวงจรแก่องค์กรชั้นนำของประเทศ เปิดเผยถึง ผลประกอบการงวด 9 เดือน ปี 2567 บริษัทมีรายได้รวม 1904.22 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากช่วงเดียวกันปีก่อนที่มีรายได้รวม 1232.71 ล้านบาท จำนวน 671.51 ล้านบาท หรือ เพิ่มขึ้น 54.47% และ มีกำไรสุทธิ 151.58 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากช่วงเดียวกันปีก่อนที่มีกำไรสุทธิ 97.50 ล้านบาท จำนวน 54.08 ล้านบาท หรือเพิ่มขึ้น 55.47%

ขณะที่ ผลประกอบการไตรมาส 3/2567 บริษัทมีรายได้รวม 580.09 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากช่วงเดียวกัน ปีก่อนที่มีรายได้รวม 444.46 ล้านบาท จำนวน 135.63 ล้านบาท หรือ เพิ่มขึ้น 30.52% และ มีกำไรสุทธิ 42.38 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากช่วงเดียวกันปีก่อนที่มีกำไรสุทธิ 32.02 ล้านบาท จำนวน 10.36 ล้านบาท หรือเพิ่มขึ้น 32.35%

ทั้งนี้ผลประกอบการของบริษัทเติบโตขึ้น จากการรับรู้รายได้ธุรกิจจำหน่ายอุปกรณ์พร้อมติดตั้งที่เพิ่มขึ้น รวมถึงการส่งมอบงานโครงการต่างๆ อย่างต่อเนื่อง ประกอบด้วย ธุรกิจรับเหมาวางระบบที่เกี่ยวข้องกับระบบเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร 60 โครงการ และธุรกิจให้บริการอื่นๆ ที่เกี่ยวข้องกับเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร 4 โครงการ

สัดส่วนรายได้ตามกลุ่มลูกค้า แบ่งเป็น งานโครงการภาครัฐ จำนวน 62.14% และ งานภาคเอกชน จำนวน 37.86% อีกทั้งบริษัทสามารถบริหารต้นทุนการดำเนินงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ สะท้อนได้จากอัตรากำไรสุทธิในงวด 9 เดือน ปี 2567 ที่ 7.96%

สำหรับทิศทางการดำเนินงานช่วงไตรมาส 4/2567 บริษัทมุ่งเน้นพัฒนาประสิทธิภาพการดำเนินงาน โดยเพิ่มจำนวนบุคลากรผู้เชี่ยวชาญ และรูปแบบการให้บริการที่ครอบคลุม เพื่อตอบสนองความต้องการพัฒนาระบบเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสารของทั้งภาครัฐและเอกชนที่มีแนวโน้มเติบโตเนื่อง รวมถึงเพิ่มโอกาสการเข้าประมูลงาน เพื่อขยายฐานลูกค้าในกลุ่มธุรกิจที่มีศักยภาพ

ปัจจุบันบริษัทมีโครงการในมือที่พร้อมรับรู้รายได้ ณ วันที่ 30 กันยายน 2567 จำนวน 48 โครงการ มูลค่ารวมทั้งสิ้น 580.58 ล้านบาท ซึ่งจากแผนการดำเนินงานและปัจจัยการเติบโตของภาคอุตสาหกรรม จะสามารถสร้างการเติบโตของรายได้ 30% ตามแผนที่วางไว้ และเพิ่มความสามารถในการทำกำไรให้อยู่ในระดับที่ดียิ่งขึ้น