NAM โชว์กำไร Q3 พุ่ง 21.25% ชูกลุ่มผลิตและจำหน่ายผลิตภัณฑ์สิ้นเปลืองทางการแพทย์โดดเด่น
บมจ.นำวิวัฒน์ เมดิคอล คอร์ปอเรชั่น (NAM) ของแท้! กางงบไตรมาส 3/2567 กวาดรายได้ 331 ล้านบาท เพิ่ม 10.55% กำไรสุทธิ 70.97 ล้านบาท พุ่ง 21.25% เติบโตอย่างแข็งแกร่งจากรายได้ใน 3 ธุรกิจหลักที่เพิ่มขึ้น โดยเฉพาะกลุ่มผลิตและจำหน่ายผลิตภัณฑ์สิ้นเปลืองทางการแพทย์ ด้านผู้บริหาร "วิโรจน์ ชัยเทอดเกียรติ" คาด ไตรมาส 4/2567 ยังเติบโตต่อเนื่องรับอานิสงส์ภาครัฐส่งเสริมการเข้าถึงบริการสาธารณสุขโดยเฉพาะนโยบาย 30 บาทรักษาทุกที่ พร้อมวางกลยุทธ์ขยายฐานลูกค้าต่างประเทศและเพิ่มผลิตภัณฑ์ในกลุ่ม Healthcare อุปกรณ์ห้องผ่าตัด มุ่งสร้างการเติบโตอย่างยั่งยืนในระยะยาว
นายวิโรจน์ ชัยเทอดเกียรติ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท นำวิวัฒน์ เมดิคอล คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) (NAM) ดำเนินธุรกิจ ผลิต นำเข้า และจัดจำหน่ายผลิตภัณฑ์เครื่องมือและอุปกรณ์ทางการแพทย์สำหรับการทำความสะอาดและฆ่าเชื้ออุปกรณ์ทางการแพทย์ รวมถึงผลิตภัณฑ์สิ้นเปลืองทางการแพทย์ และให้บริการอื่นที่เกี่ยวข้องแบบครบวงจร เปิดเผยว่า ผลการดำเนินงานไตรมาส 3/2567 บริษัทฯ มีรายได้รวมจำนวน 331.85 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 31.67 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 10.55% เทียบช่วงเดียวกันของปีก่อนที่มีรายได้ 300.18 ล้านบาท โดยส่วนใหญ่มาจากรายได้จากการขายและบริการ จำนวน 316.84 ล้านบาท ขณะที่ มีกำไรสุทธิ 70.97 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 12.44 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 21.25% เทียบช่วงเดียวกันของปีก่อนที่มีกำไรสุทธิ 58.53 ล้านบาท
"ผลการดำเนินงานไตรมาส 3/2567 เติบโตอย่างแข็งแกร่ง เนื่องจาก 3 กลุ่มธุรกิจหลักมีรายได้เพิ่มขึ้นอย่างโดดเด่น ประกอบด้วย รายได้จากการผลิตและจำหน่ายอุปกรณ์ทางการแพทย์เพิ่มขึ้น 9.14 ล้านบาท หรือเพิ่มขึ้น 5.02% ส่วนรายได้ผลิตและจำหน่ายผลิตภัณฑ์สิ้นเปลืองทางการแพทย์ (CS) มีจำนวนเพิ่มขึ้น 16.15 ล้านบาท หรือคิดเป็น 24.33% เนื่องจากมีการจำหน่ายผลิตภัณฑ์วัสดุสิ้นเปลืองในกลุ่มห้องผ่าตัดและการเติบโตจากส่วนผสมผลิตภัณฑ์ (Product mixed) ในกลุ่มผลิตภัณฑ์ผลิตและจำหน่ายผลิตภัณฑ์สิ้นเปลืองทางการแพทย์ และรายได้การให้บริการการฆ่าเชื้อ CSSD บริการซ่อมบำรุงอุปกรณ์ทางการแพทย์ และการกำจัดของเสีย เพิ่มขึ้น 3.52 ล้านบาท หรือ เติบโต 9.15% ทำให้รายได้จากการขายและการบริการรวมเพิ่มขึ้น 10.02% เมื่อเทียบช่วงเดียวกันของปีก่อน" นายวิโรจน์ กล่าว
ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร กล่าวอีกว่า แนวโน้มผลการดำเนินงานในไตรมาส 4/2567 คาดว่าจะสามารถเติบโตได้อย่างต่อเนื่อง จากปัจจัยบวกด้านนโยบายรัฐที่ให้ความสำคัญกับระบบสาธารณสุข ตัวอย่างเช่น นโยบาย 30 บาทรักษาทุกที่ ด้วยบัตรประชาชนใบเดียว เพิ่มพื้นที่บริการเป็น 42 จังหวัด จากที่เริ่มต้นเพียง 4 จังหวัดเมื่อปลายปีที่ผ่านมา ซึ่งสามารถใช้บริการในพื้นที่กรุงเทพมหานครได้ด้วย เพื่อให้ประชาชนสามารถเข้าถึงบริการสาธารณสุขได้อย่างทั่วถึง ซึ่งจะส่งผลทำให้มีความต้องการใช้เครื่องมือเพื่อทำความสะอาดและฆ่าเชื้ออุปกรณ์ทางการแพทย์เพิ่มขึ้นในการใช้ผลิตภัณฑ์กลุ่ม อีกทั้งบริษัทฯ มีฐานลูกค้าเป็นกลุ่มโรงพยาบาลทั้งภาครัฐและเอกชนอยู่ทั่วประเทศ ทำให้เชื่อมั่นว่าจะเป็นปัจจัยที่สนับสนุนให้ผลการดำเนินงานทั้งปีเติบโตต่อเนื่องจากปีก่อน
นอกจากนี้ บริษัทฯ วางแผนกลยุทธ์ ขยายฐานรายได้กลุ่มงานบริการจากการร่วมมือกับพันธมิตร มองหาการลงทุนในต่างประเทศเพื่อต่อยอดธุรกิจ ขยายการขายในต่างประเทศ ขยายกลุ่มตัวแทนจำหน่ายในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ เพื่อเป็นฐานในการกระจายสินค้า อีกทั้งมีการเพิ่มผลิตภัณฑ์ในกลุ่ม Healthcare ห้องผ่าตัด รวมถึงมุ่งเน้นงานนวัตกรรม วิจัยและพัฒนาสินค้าใหม่ให้ตอบโจทย์ลูกค้ากลุ่ม B2C ประกอบกับขยายโรงงานเพื่อรองรับการขยายกำลังการผลิต มุ่งสร้างการเติบโตอย่างมั่นคงและยั่งยืนต่อไป