CH เผยแผนธุรกิจปี 67 เตรียมลงทุนเปิดโรงงานใหม่ ตั้งเป้ารายได้ 1900 ล้านบาท เดินหน้าพัฒนาผลิตภัณฑ์ใหม่ สร้างความหลากหลาย ชูจุดเด่นผลิตภัณฑ์เพื่อสุขภาพ ดูแลสิ่งแวดล้อม ตอบโจทย์ความต้องการผู้บริโภค รับเทรนด์อาหารอนาคต เล็งขยายช่องทางขายออนไลน์ โมเดิร์นเทรด รุกตลาด OEM ต่อเนื่อง พร้อมบุกงานแฟร์ทั้งในและต่างประเทศ สร้างโอกาสพบตัวแทนจำหน่ายและผู้นำเข้ารายใหม่

นายศักดา ศรีแสงนาม ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เจริญอุตสาหกรรม จำกัด (มหาชน) หรือ CH เปิดเผยว่า ในปี 2567 บริษัทเตรียมงบลงทุนจำนวน 15 ล้านบาท สำหรับการลงทุนก่อสร้างโรงงานผลิตผลไม้ชุบช็อกโกแลต เพิ่มสมรรถนะกระบวนการผลิต ใช้พลังงานทดแทน พร้อมลดการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ เพื่อสิ่งแวดล้อมที่ยั่งยืน ช่วยลดต้นทุน สร้างความได้เปรียบทางการแข่งขัน ขณะที่เป้าหมายรายได้จากการขายสำหรับปีนี้อยู่ที่ประมาณ 1900 ล้านบาท ซึ่งยังไม่รวมรายได้จากการขายผลไม้ชุบช็อกโกแลต ที่เริ่มเปิดตัวช่วงกลางปี 2566 ที่ผ่านมา

สำหรับแผนการดำเนินงานปีนี้ มุ่งเน้นการพัฒนาสินค้าใหม่ การออกสินค้ารสชาติใหม่ ที่ใช้วัตถุดิบคุณภาพสูงอย่างต่อเนื่อง กระบวนการผลิตที่ไม่ลดคุณค่าทางโภชนาการ เพื่อสร้างความหลากหลายตอบโจทย์เทรนด์ความต้องการของผู้บริโภค

CH ยังคงเดินหน้ากลยุทธ์ขยายตลาดต่างประเทศที่มีศักยภาพ แนะนำผลิตภัณฑ์กับลูกค้าเดิมและลูกค้าใหม่ให้เป็นที่รู้จักมากขึ้น รวมถึงเข้าร่วมงานแสดงสินค้าระดับสากลทั่วโลก สร้างโอกาสพบตัวแทนจำหน่ายและผู้นำเข้าสินค้าในกลุ่มประเทศเป้าหมายรายใหม่ๆ เพิ่มขึ้น

ส่วนการขยายตลาดในประเทศ มีแผนเพิ่มช่องทางจำหน่ายออนไลน์ และจุดจำหน่ายโมเดิร์นเทรดให้ครอบคลุมทั่วประเทศ เพื่อขยายฐานลูกค้าใหม่ ผลักดันยอดขายกลุ่มผลิตภัณฑ์ผลไม้อบแห้ง ผลิตภัณฑ์ขนมเพื่อสุขภาพ และผลิตภัณฑ์ใหม่ Fruit Ball ภายใต้แบรนด์ Bangkok Tasty 

ปัจจุบัน วางจำหน่ายที่ CENTRAL VILLAGE บิ๊กซี ซูเปอร์เซ็นเตอร์ 8 สาขา 7-Eleven 26 สาขา เทสโก้ โลตัส 34 สาขา Gourmet Market 4 สาขา

นอกจากนี้เร่งเดินหน้าขยายฐานลูกค้า OEM รับผลิตสินค้าตามแบบที่ลูกค้ากำหนด หรือออกแบบร่วมกับผู้ประกอบการในรูปแบบ One Stop Service ชูจุดเด่นเทคโนโลยีการผลิตที่มีคุณภาพ มาตรฐานสูง ประกอบกับ ความเชี่ยวชาญเฉพาะทางและความรู้ความเข้าใจเกี่ยวกับสินค้า มีความหลากหลายของรสชาติ ที่ผ่านการวิเคราะห์ วิจัยตลาดมาเป็นอย่างดี และให้คำปรึกษาเพื่อสร้างจุดแข็งให้กับลูกค้า

“ผลิตภัณฑ์ผลไม้อบแห้ง ขนมเพื่อสุขภาพและอาหารแปรรูป มีแนวโน้มความต้องการเพิ่มขึ้น ตามเศรษฐกิจของประเทศคู่ค้าที่ทยอยฟื้นตัว รวมถึงภาคการท่องเที่ยวในประเทศที่กลับมาคึกคัก อีกทั้งกระแสรักสุขภาพทั่วโลกที่ทำให้ผู้บริโภคหันมารับประทานอาหารที่มีประโยชน์มากขึ้น ทำให้ผู้บริโภคเลือกซื้อผลิตภัณฑ์โดยพิจารณาจากปริมาณคุณค่าของสารอาหาร และหันมาเน้นผลิตภัณฑ์อาหารที่มีเครื่องหมายรับรองคุณภาพ ซึ่งสินค้าของบริษัทเป็นผลิตภัณฑ์ที่ได้รับการรับรองมาตรฐาน สามารถตอบโจทย์ความต้องการดังกล่าวได้ครอบคลุม” นายศักดา กล่าว