STA ประกาศความพร้อมในการเสนอขายหุ้นกู้ อายุ 3-10 ปี อัตราดอกเบี้ย 3.40-4.00% ต่อปี กำหนดจ่ายดอกเบี้ยทุก 6 เดือน ระหว่างวันที่ 31 มกราคม และ 3-4 กุมภาพันธ์ 2568 เผยเป็นโอกาสที่ดีสำหรับผู้ลงทุนทั่วไปในการเข้าถึงหุ้นกู้ที่มีอันดับความน่าเชื่อถือ “A-” แนวโน้ม “คงที่” (Stable) ขณะที่อายุของหุ้นกู้ที่หลากหลายเอื้อต่อการล็อคระยะเวลาการลงทุนด้วยการรับผลตอบแทนที่น่าพอใจอย่างสม่ำเสมอ ตลอดจนความแข็งแกร่งของธุรกิจในฐานะผู้นำธุรกิจยางธรรมชาติครบวงจรรายใหญ่ที่สุดของโลกและผู้ผลิตถุงมือยางอันดับหนึ่งของไทย ที่มีผลการดำเนินงานเติบโตโดดเด่น เป็นปัจจัยสนับสนุนที่สำคัญที่ทำให้หุ้นกู้ STA เป็นทางเลือกที่น่าสนใจของผู้ลงทุน

นายวีรสิทธิ์ สินเจริญกุล กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท ศรีตรังแอโกรอินดัสทรี จำกัด (มหาชน) หรือ STA ธุรกิจยางธรรมชาติครบวงจรรายใหญ่ที่สุดของโลกและผู้ผลิตถุงมือยางอันดับหนึ่งของประเทศไทย เปิดเผยว่า บริษัทฯ พร้อมแล้ว กับการเสนอขายหุ้นกู้ชนิดระบุชื่อผู้ถือ ประเภทไม่ด้อยสิทธิ ไม่มีหลักประกัน และมีผู้แทนผู้ถือหุ้นกู้ ให้แก่ประชาชนเป็นการทั่วไป จำนวน 4 ชุด ประกอบด้วย หุ้นกู้ชุดที่ 1 อายุ 3 ปี อัตราดอกเบี้ย 3.40% ต่อปี หุ้นกู้ชุดที่ 2 อายุ 5 ปี อัตราดอกเบี้ย 3.70% ต่อปี หุ้นกู้ชุดที่ 3 อายุ 8 ปี อัตราดอกเบี้ย 3.85% ต่อปี และหุ้นกู้ชุดที่ 4 อายุ 10 ปี อัตราดอกเบี้ย 4.00% ต่อปี กำหนดจ่ายดอกเบี้ยทุก ๆ 6 เดือน โดยจะเสนอขายในระหว่างวันที่ 31 มกราคม และ 3-4 กุมภาพันธ์ 2568 ผ่านธนาคารกรุงไทย จำกัด (มหาชน) และธนาคารกสิกรไทย จำกัด (มหาชน) ทุกสาขา

“เรามั่นใจว่า การเสนอขายหุ้นกู้ครั้งนี้จะเป็นโอกาสครั้งสำคัญของผู้ลงทุนที่เป็นประชาชนทั่วไปในการเข้าถึงหุ้นกู้ของบริษัทฯ ด้วยอายุหุ้นกู้ระหว่าง 3-10 ปี จะเป็นทางเลือกที่ตอบโจทย์ผู้ลงทุนที่สามารถเลือกล็อคระยะเวลาที่เหมาะสมกับการจัดสรรเงินลงทุนให้สอดคล้องกับความต้องการของตัวเอง ภายใต้ผลตอบแทนที่น่าพอใจ รวมไปถึงความแข็งแกร่งของธุรกิจที่ STA เป็นผู้นำในธุรกิจยางธรรมชาติครบวงจรรายใหญ่ที่สุดของโลก ตลอดจนแนวโน้มของราคายางพาราในตลาดโลกที่ปรับตัวสูงขึ้น ปัจจัยทั้งหมดนี้จะตอกย้ำความมั่นใจของผู้ลงทุน และเชื่อว่าจะทำให้หุ้นกู้ของ STA เป็นอีกหนึ่งทางเลือกที่ได้รับการตอบรับจากผู้ลงทุนอย่างแน่นอน” กรรมการผู้จัดการใหญ่ บมจ.ศรีตรังแอโกรอินดัสทรี กล่าว

ทั้งนี้ ในไตรมาส 3 ปี 2567 ราคายางแท่งในตลาดซื้อขายยางพาราล่วงหน้าในประเทศสิงคโปร์ (SICOM) เพิ่มขึ้นถึง 30% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน เช่นเดียวกับราคายางแผ่นรมควันในประเทศไทยที่ปรับตัวสูงขึ้นจนแตะที่เกือบ 100 บาทต่อกิโลกรัม แม้ปัจจุบันราคาจะย่อตัวลงบ้าง แต่ยังคงทรงตัวอยู่ที่ระดับ 80 บาทต่อกิโลกรัม เพิ่มขึ้นจากช่วง 2-3 ปีก่อน ที่มีราคาเฉลี่ยเพียง 40 บาทต่อกิโลกรัม

ปัจจุบัน บมจ. ศรีตรังแอโกรอินดัสทรี ประกอบธุรกิจผลิตและจัดจำหน่ายยางธรรมชาติแบบครบวงจร (Full Supply Chain) ในหลายประเทศ เริ่มตั้งแต่ธุรกิจต้นน้ำ ได้แก่ การทำสวนยางพาราในประเทศไทย ธุรกิจกลางน้ำ ประกอบด้วย การผลิตและจัดจำหน่ายผลิตภัณฑ์ยางธรรมชาติ ทั้งยางแท่ง (TSR) ยางแผ่นรมควัน (RSS) และน้ำยางข้น (Concentrated Latex) ไปจนถึงธุรกิจปลายน้ำ ได้แก่ การผลิตและจำหน่ายถุงมือยาง รวมถึงสินค้าสำเร็จรูป อาทิ ท่อไฮดรอลิกแรงดันสูง โดยบริษัทฯ มีฐานะทางการเงินที่แข็งแกร่ง และผลการดำเนินงานของบริษัทฯ ก็เติบโตอย่างมีนัยสำคัญ โดยในไตรมาสที่ 3 ปี 2567 บริษัทฯ มีรายได้จากการขายและการให้บริการอยู่ที่ 31618.5 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 22.5% จากไตรมาสก่อนหน้า และเพิ่มขึ้น 87.3% จากไตรมาสเดียวกันของปีก่อน และมีกำไรสุทธิ 517.3 ล้านบาท ส่วนงวด 9 เดือนปี 2567 บริษัทฯ มีกำไรสุทธิ 816.0 ล้านบาท จากราคาและปริมาณขายยางพาราที่สูงขึ้น ประกอบกับการจำหน่ายยาง EUDR (EU Deforestation free Regulation) ซึ่งได้มูลค่าสูงกว่ายางปกติ

พร้อมกันนี้ STA ยังยึดมั่นในการดำเนินธุรกิจภายใต้หลักความยั่งยืนและธรรมาภิบาล โดยได้รับการประเมินหุ้นยั่งยืน SET ESG Ratings ประจำปี 2567 ในหมวดเกษตรและอุตสาหกรรมอาหาร (Agro & Food Industry) ที่ระดับ “AAA” จากตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย ซึ่งเป็นการผ่านเกณฑ์การประเมินที่ระดับสูงสุดเป็นปีที่ 2 ติดต่อกัน และนับเป็นปีที่ 10 ที่ได้รับประเมินเป็นหุ้นยั่งยืน รวมถึงได้รับรางวัล “ANTI-CORRUPTION AWARDS 2024” ส่งเสริมธรรมาภิบาล ประจำปี 2567 และบริษัทฯ ยังได้เข้าเป็นสมาชิกของแนวร่วมต่อต้านคอร์รัปชั่นของภาคเอกชนไทยมาอย่างต่อเนื่องอีกด้วย