CHOW เซ็น SM บุก Solar ภาคตะวันออก นำร่องติดตั้ง 800 kw ลดพลังงานสาขา

   เมื่อ : 09 เม.ย. 2567

CHOW ควง SM เดินหน้าขยายฐานธุรกิจพลังงานทดแทน Solar Rooftop ประเดิมติดตั้งในกลุ่ม SM รวมกว่า 800 กิโลวัตต์ ก่อนขยายความร่วมมือเข้ากลุ่มอุตสาหกรรมภาคะวันออก “อนาวิล จิรธรรมศิริ” เผยกลุ่มอุตสาหกรรมตื่นตัวหันใช้พลังงานทดแทนช่วยลดต้นทุนพลังงาน เชื่อความร่วมมือกลุ่ม SM เจ้าถิ่นภาคตะวันออกหนุนธุรกิจเติบโตมีนัยสำคัญ มั่นใจปี 68 ดันโปรเจคระหว่างพัฒนาและจ่ายไฟทะลุ 400 เมกะวัตต์ตามเป้า ขณะที่ “ชูศักดิ์ วิวัฒน์วงศ์เกษม” บิ๊กบอส SM เผยพร้อมสร้างโอกาสทางธุรกิจใหม่ๆ เพื่อการเติบโตที่แข็งแกร่งและยั่งยืน มั่นใจความร่วมมือกับ CHOW บวกกับการนำเทคโนโลยีเข้ามาใช้ในธุรกิจ จะสนับสนุนผลการดำเนินงานปี 67 สดใส รายได้จ่อ All Time High ตามเป้า

 

นายอนาวิล จิรธรรมศิริ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร (CEO) บริษัท เชาว์ สตีล อินดัสทรี้ จำกัด (มหาชน) หรือ CHOW ผู้ประกอบธุรกิจผลิตและจำหน่ายผลิตภัณฑ์เหล็กแท่งยาว (Steel Billet) รายใหญ่ของประเทศ และธุรกิจพลังงานทดแทนประเภทพลังงานแสงอาทิตย์ ผ่านบริษัท เชาว์ เอ็นเนอร์ยี่ จำกัด (มหาชน) บริษัทย่อย เปิดเผยว่า บริษัทฯ ได้ลงนามในสัญญาเพื่อติดตั้งโครงการผลิตไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์บนหลังคา (Solar Rooftop) ขนาดกำลังการผลิตรวมกว่า 800 กิโลวัตต์ กับ บริษัท สตาร์ มันนี่ จำกัด (มหาชน) หรือ SM ผู้ประกอบธุรกิจให้สินเชื่อส่วนบุคคลและจำหน่ายเครื่องใช้ไฟฟ้าภายในบ้าน และเพื่อการพาณิชย์ รายใหญ่ในภาคคะวันออก ในสัญญาซื้อขายไฟแบบ PPA หรือ Power Purchase Agreement  โดยบริษัทฯ จะเป็นผู้ลงทุนในอุปกรณ์การติดตั้ง รวมถึงการดูแลรักษาระบบผลิตไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์บนหลังคาฯทั้งหมด และจำหน่ายไฟฟ้าที่ผลิตได้ให้กับ SM ตามระยะสัญญาของลูกค้า โดยเป็นราคาที่ต่ำกว่าค่าไฟฟ้าของการไฟฟ้าส่วนภูมิภาคและการไฟฟ้านครหลวง ซึ่งจะช่วยลดภาระค่าใช้จ่ายด้านพลังงานได้เป็นอย่างดี

 

“CHOW จะทำหน้าที่พัฒนาโครงการโซลาร์เซลล์ ให้กับเครือข่ายของ บริษัท สตาร์ มันนี่ จำกัด (มหาชน) ให้เหมาะสมกับความต้องการใช้ของแต่ละแห่งเพื่อให้การใช้พลังงานไฟฟ้าจากพลังงานแสงอาทิตย์บรรลุประโยชน์สูงสุดตามความต้องการของผู้ประกอบการทั้งสองฝ่าย  ซึ่ง CHOW มีความเชี่ยวชาญในการทำโครงการพลังงานแสงอาทิตย์ในหลากหลายรูปแบบ สามารถนำมาใช้ในการพัฒนาโครงการและการก่อสร้าง รวมถึงการดำเนินการและบำรุงรักษาโครงการให้มีประสิทธิภาพสูงสุดได้ โดยคาดว่าจะเริ่มขายไฟในเชิงพาณิชย์ได้ในเดือน สิงหาคม 2567”

 

นายอนาวิล กล่าวว่า ปัจจุบันโครงการ Solar Rooftop ในประเทศไทย เติบโตได้อย่างรวดเร็ว ทั้งภาคธุรกิจเอกชน ภาคครัวเรือน และภาคอุตสาหกรรม หลังจากที่ทุกภาคส่วนได้ให้ความสำคัญกับการดูแลสิ่งแวดล้อม และมุ่งลดต้นทุนพลังงานอย่างมีนัยสำคัญ ซึ่งความร่วมมือระหว่าง CHOW และ SM นอกจากการลงนามในสัญญาข้างต้นแล้ว ยังมีกรอบความร่วมมือที่ CHOW และ SM จะร่วมมือกันขยายตลาดในกลุ่มอุตสาหกรรมภาคตะวันออก โดย CHOW จะทำหน้าที่พัฒนาโครงการ และ SM เป็นผู้สนับสนุนสินเชื่อให้กับโครงการที่จะเกิดขึ้นในอนาคต และการลงนามในครั้งนี้จึงเป็นจุดเริ่มต้นของการขยายธุรกิจ Solar ในภาคตะวันออกร่วมกันในอนาคต โดยเชื่อว่าความเชี่ยวชาญในธุรกิจภาคตะวันออก ศักยภาพของเครือข่ายและทีมบริหารที่มากประสบการณ์ของ SM จะช่วยให้การขยายตลาดเป็นไปอย่างรวดเร็ว และประสบความสำเร็จตามแผนธุรกิจที่ทำร่วมกัน ซึ่งจะเป็นส่วนหนึ่งที่สนับสนุนให้ธุรกิจพลังงานทดแทนของ CHOW เติบโตตามเป้าหมายที่วางไว้ โดยในปี 2568 บริษัทฯ มีเป้าหมายจะผลักดันโครงการที่อยู่ระหว่างการพัฒนาและจ่ายไฟให้ทะลุ 400 เมกะวัตต์ จากเป้าหมาย 250 เมกะวัตต์ในปีนี้

 

ด้านนายชูศักดิ์ วิวัฒน์วงศ์เกษม กรรมการผู้จัดการ บริษัท สตาร์ มันนี่ จำกัด (มหาชน) หรือ SM กล่าวว่า มั่นใจว่าความร่วมมือระหว่าง SM และ CHOW ในโครงการ Solar Rooftop ดังกล่าวจะประสบความสำเร็จด้วยดี เนื่องจาก Solar Rooftop เป็นสินค้าเมกะเทรนด์ที่มีแนวโน้มการเติบโตสูง โดยโครงการนี้จะใช้จุดแข็งของทั้งสองฝ่ายมารวมกันเพื่อนำเสนอบริการ Solar Rooftop ให้กับลูกค้าในพื้นที่ภาคตะวันออกซึ่ง SM มีประสบการณ์และความชำนาญเป็นพิเศษ

 

สำหรับประโยชน์ที่ SM จะได้รับ คือ นอกจากจะช่วยลดต้นทุนค่าใช้จ่ายด้านพลังงานแล้ว ยังสนับสนุนให้ผลประกอบการของ SM ในปี 2567 เติบโตอย่างมีนัยสำคัญ โดยคาดว่ารายได้รวมจะ All Time High ต่อเนื่องจากปี 2566 ที่มีรายได้ 1379.85 ล้านบาท และมีกำไรสุทธิ 61.75 ล้านบาท

 

“สตาร์ มันนี่ พร้อมสร้างโอกาสทางธุรกิจ เพื่อการเติบโตที่แข็งแกร่งและยั่งยืนในอนาคต เรายินดีที่จะเจรจาร่วมมือกับพันธมิตรเพื่อทำธุรกิจใหม่ๆ ที่หลากหลาย บนพื้นฐานความเชี่ยวชาญด้านธุรกิจการปล่อยสินเชื่อในพื้นที่ภาคตะวันออก และในปีนี้เราได้มุ่งเน้นนำเทคโนโลยีมาใช้ควบคุมคุณภาพหนี้ และบริหารจัดการการปล่อยสินเชื่อที่รัดกุม คาดว่าจะทำให้ยอดขายและสินเชื่อใหม่ปีนี้เติบโตไม่ต่ำกว่า 10% จากสิ้นปีก่อนอยู่ที่ 2500 ล้านบาท  รวมถึงรายได้และพอร์ตสินเชื่อเติบโต All Time High ตามเป้าหมายที่วางไว้” นายชูศักดิ์ กล่าวในที่สุด