NAM จับมือ Somnics Inc. เจาะกลุ่ม Healthcare consumer พร้อมตั้งฐานผลิต ชิงส่วนแบ่งตลาดปีแรก 3-5%
บมจ.นำวิวัฒน์ เมดิคอล คอร์ปอเรชั่น (NAM) ประกาศความร่วมมือครั้งสำคัญกับ บริษัท Somnics Inc. ผู้เชี่ยวชาญด้านอุปกรณ์การแพทย์ระดับโลก จากประเทศไต้หวัน วางแผนจัดตั้งบริษัร่วมกันเพื่อ ลุยขยายตลาด-จำหน่ายเครื่องมือแพทย์ากลุ่มการนอนในประเทศไทยและภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ พร้อมมีแผนตั้งศูนย์บริการ และ ฐานการผลิตในอนาคต ฟากซีอีโอ“วิโรจน์ ชัยเทอดเกียรติ”ระบุตั้งเป้ายอดขายปีแรก 3-5% จากมูลค่าตลาดในไทยที่มีกว่า 500-700 ล้านบาทต่อปี หนุนอนาคตเติบโตก้าวกระโดด
นายวิโรจน์ ชัยเทอดเกียรติ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท นำวิวัฒน์ เมดิคอล คอร์ปอเรชั่น จำกัด(มหาชน) (NAM) เปิดเผยว่า บริษัทฯได้ลงนามความเข้าใจร่วมกันกับบริษัท Somnics Inc. เพื่อขยายตลาดและการจัดจำหน่ายพร้อมให้บริการสินค้ากลุ่ม iNAP ในประเทศไทยและภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ในอนาคต รวมถึงการตั้งฐานการผลิตสินค้ากลุ่ม iNAP ในประเทศไทย เพื่อขยายสู่การส่งออก ซึ่ง Somnics Inc. ตอบโจทย์เรื่องคุณภาพและมาตรฐานผลิตภัณฑ์ระดับโลก
“การร่วมมือครั้งนี้เป็นไปตามแผนการขยายตลาดสินค้าเพื่อส่งออกไปยังต่างประเทศ และขยายฐานรายได้ของ NAM ที่ปัจจุบันครอบคลุมเฉพาะในโรงพยาบาล หน่วยงาน มหาวิทยาลัย และสถานพยาบาลหรือที่เรียกว่า B2B โดยบริษัทมีแผนการวิจัยและผลิตเครื่องมือแพทย์เพื่อขยายสินค้าไปยัง กลุ่ม B2C ให้มากขึ้น”
ด้าน Mr.Chung-Chu Chen ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร Somnics Inc. กล่าวว่า ในฐานะผู้พัฒนาเทคโนโลยีที่เป็นนวัตกรรมสำหรับการรักษาภาวะหยุดหายใจขณะหลับจากการอุดกั้น (OSA) หรือผลิตภัณฑ์ iNAP โดยมีวิสัยทัศน์เพื่อมอบวิธีการที่เรียบง่าย สะดวกสบาย และรอบคอบแก่ผู้ป่วยในการรักษา OSA และช่วยให้ผู้ป่วยหายใจได้ตามธรรมชาติมากขึ้นไม่ว่าจะนอนที่ไหนก็ตาม อีกทั้ง เพิ่มทางเลือกในการป้องกัน แก้ปัญหาและเพิ่มคุณภาพชีวิตในการนอนให้กลุ่มลูกค้าที่ประสบปัญหานอนกรน และ OSA
iNAP ย่อมาจาก Intraoral Negative Airway Pressure therapy เป็นอุปกรณ์การแพทย์ที่ออกแบบมาเพื่อแก้ปัญหาการนอนกรนและภาวะหยุดหายใจขณะหลับ โดยอาศัยเทคโนโลยี Intra Oral Negative Air Pressure Therapy (iNAP) ที่จะสร้างแรงดูดอากาศอ่อนๆ ภายในช่องปาก ส่งผลให้อวัยวะภายในช่องปากและลิ้นอยู่ในตำแหน่งที่เหมาะสมที่สุด ส่งเสริมการหายใจได้ด้วยตนเองตามธรรมชาติ
ทั้งนี้ บริษัทฯ ได้มีการจดสิทธิบัตรมากกว่า 190 รายการในไต้หวัน สหรัฐอเมริกา และแถบประเทศในทวีปยุโรป อย่างไรก็ตามเดิมบริษัทฯ จัดจำหน่ายประมาณ 37 ประเทศทั่วโลก และขณะนี้ถือเป็นโอกาสที่ดีที่จะเริ่มเข้าทำตลาดในประเทศไทยและภูมิภาคเอเซีย