ผู้ถือหุ้น SAFE เคาะจ่ายปันผล 0.15 บ./หุ้น
ผู้ถือหุ้น บมจ.เซฟ เฟอร์ทิลิตี้ กรุ๊ป (SAFE) อนุมัติจ่ายเงินปันผลอีก 0.15 บาท ขึ้น XD วันที่ 7 พ.ค. 67 เตรียมรับทรัพย์ 24 พ.ค. 67 นี้ รวมทั้งปีจ่าย 0.805 บาท/หุ้น พร้อมเดินหน้าลงทุนเทคโนโลยีใหม่ ที่จะช่วยเพิ่มอัตราความสำเร็จในการตั้งครรภ์ บิ๊กบอส “นพ.วิวัฒน์ กว้างคณานุรักษ์” มั่นใจปี 67 รายได้เติบโต 25% สร้างสถิติสูงสุดใหม่
นพ.วิวัฒน์ กว้างคณานุรักษ์ แพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านการรักษาผู้มีบุตรยากด้วยเทคโนโลยีช่วยการเจริญพันธุ์ทางการแพทย์ ในฐานะประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เซฟ เฟอร์ทิลิตี้ กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) (SAFE) เปิดเผยว่า ที่ประชุมสามัญผู้ถือหุ้นประจำปี 2567 ในวันที่ 26 เมษายน 2567 ที่ผ่านมามีมติอนุมัติจ่ายเงินปันผลในอัตราหุ้นละ 0.15 บาท กำหนดขึ้นเครื่องหมาย XD วันที่ 7 พฤษภาคม 2567 และจ่ายเงินวันที่ 24 พฤษภาคม 2567 ทั้งนี้ บริษัทฯ จ่ายเงินปันผลระหว่างกาลไปแล้วหุ้นละ 0.655 บาท รวมทั้งปีเท่ากับ 0.805 บาท/หุ้น สำหรับผลการดำเนินงานปี 2566
สำหรับผลการดำเนินงานในปี 2566 เติบโตอย่างแข็งแกร่ง ได้รับปัจจัยหนุนจากการให้บริการการรักษาผู้มีบุตรยากที่เพิ่มขึ้นจากจำนวนรอบของการเก็บไข่ (treatment cycle) เพิ่มขึ้น โดยเฉพาะคนไข้ชาวต่างชาติที่เพิ่มขึ้นจากปีก่อน และคนไข้ชาวไทยที่ทยอยเพิ่มขึ้นตั้งแต่ช่วงกลางปี 2566 เป็นต้นมา อีกทั้งรายได้จากการให้บริการตรวจพันธุกรรมของตัวอ่อนและทารกในครรภ์ ที่เติบโตตามธุรกิจ IVF ที่ขยายตัวเติบโตอย่างต่อเนื่อง โดยการตรวจคัดกรองพันธุกรรมสามารถเพิ่มโอกาสการตั้งครรภ์และความสมบูรณ์ของบุตรที่จะคลอดออกมา
ทั้งนี้ กรณีที่กระทรวงสาธารณสุข (สธ.) เตรียมทบทวนปรับปรุงกฎหมายที่เกี่ยวข้องกับพระราชบัญญัติการคุ้มครองเด็กที่เกิดโดยอาศัยเทคโนโลยีช่วยการเจริญพันธุ์ทางการแพทย์ เพื่อส่งเสริมการเข้าถึงบริการกับคู่รักสามีภรรยาที่มีลูกยาก เบื้องต้นจะมีการปรับแก้เกณฑ์กฎหมาย “พ.ร.บ.อุ้มบุญ” ในปี 2567 บริษัทฯ มองเป็นผลบวกต่อกลุ่ม SAFE โดยตรง เนื่องจากเป็นผู้ให้บริการการรักษาผู้มีบุตรยาก ที่เป็นชาวต่างชาติในหลายสัญชาติ ซึ่งมีสัดส่วนกว่า 50% ของเคสทั้งหมดเฉลี่ยต่อปี เช่น เวียดนาม อินเดีย จีน เมียนมา สิงคโปร์ และญี่ปุ่น เป็นต้น ทำให้เป็นที่รู้จักของลูกค้าในหลายประเทศอยู่แล้ว และมีอัตราความสำเร็จในการตั้งครรภ์สูงเกิน 70%
ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร SAFE กล่าวอีกว่า แนวโน้มผลการดำเนินงานและแผนธุรกิจในปี 2567 คาดว่าจะเติบโตได้อย่างแข็งแกร่ง บริษัทฯจะมุ่งสร้างการเติบโตในทุกกลุ่มธุรกิจ พร้อมเดินหน้าลงทุนเทคโนโลยีใหม่ที่จะช่วยเพิ่มอัตราความสำเร็จในการตั้งครรภ์ และการเพิ่มผลิตภัณฑ์และบริการใหม่ๆ ในธุรกิจด้าน Wellness รวมถึงแผนร่วมลงทุนในธุรกิจที่สร้าง Synergy ให้กับกลุ่มบริษัท และในปีนี้ตั้งเป้าหมายรายได้เติบโต 25% สร้างสถิติสูงสุดใหม่
ผลการดำเนินงานของบริษัทฯ ในปี 2566 มีกำไรส่วนของบริษัทใหญ่ 201.83 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 39.92 ล้านบาท หรือ 24.66% สร้างสถิติสูงสุดใหม่หลังจาก COVID-19 ส่วนรายได้รวม 856.96 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 127.64 ล้านบาท หรือ 17.50% เทียบงวดเดียวกันของปีก่อนมีรายได้รวม 729.32 ล้านบาท