BAM ผนึก BKA และUOB ช่วยลูกค้าเข้าถึงบ้านมือสองราคา 5 ลบ. ตั้งเป้าสิ้นปี 100 ลบ.

   เมื่อ : 07 ส.ค. 2568

BAM พลิกทรัพย์ร้าง เป็นทรัพย์สร้างกำไร พร้อมช่วยกลั่นกรองและปรับสภาพหนี้ (Buffer) เพื่อลดภาระหนี้สถาบันการเงิน ร่วมจับมือ "BKA" ธุรกิจบ้านมือสองตกแต่งใหม่ พร้อมทั้งสถาบันการเงิน "UOB" ในการเพิ่มโอกาสการเข้าถึงแหล่งเงินทุนให้แก่พันธมิตรที่เข้าร่วมโครงการ ชี้การร่วมมือครั้งนี้จะช่วยเพิ่มความสำเร็จในกลยุทธ์หลักของ BAM ในการสร้างพันธมิตรทางธุรกิจให้เข้มแข็งอย่างยั่งยืน


ดร.รักษ์ วรกิจโภคาทร ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัทบริหารสินทรัพย์ กรุงเทพพาณิชย์ จำกัด (มหาชน) หรือ BAM กล่าวว่า BAM ในฐานะที่เป็นผู้บริหารสินทรัพย์ที่ใหญ่ที่สุดในตลาดได้ขยายความร่วมมือในการพัฒนาและบริหารจัดการทรัพย์สินรอการขาย (NPA) ให้เกิดมูลค่าเพิ่ม และเพิ่มโอกาสการเข้าถึงแหล่งเงินทุนให้แก่พันธมิตรที่เข้าร่วมโครงการ ซึ่งเกิดขึ้นจากเป้าหมายร่วมกันในการพัฒนาและยกระดับศักยภาพของทรัพย์ที่ BAM ถือครอง เพื่อพลิกทรัพย์ร้าง เป็นทรัพย์สร้างกำไร ให้สามารถกลับเข้าสู่ตลาดในรูปแบบที่ตอบโจทย์ความต้องการของผู้ซื้อจริง โดยเฉพาะในกลุ่มตลาดระดับกลางถึงบน สำหรับ BKA ในฐานะ Developer จะเข้ามาบริหารและพัฒนาทรัพย์ให้มีศักยภาพสูงขึ้น โดยเน้นกลุ่มบ้านเดี่ยวระดับราคา 5 ล้านบาท ขึ้นไป ซึ่งกำลังเป็นที่ต้องการในตลาดเมืองขยายและเขตชานเมือง โดยคาดว่าเป้าที่จะจัดทำร่วมกับ BKA ภายในสิ้นปีนี้จะอยู่ที่ประมาณกว่า 100 ล้านบาท ขณะเดียวกัน BAM ยังมีหน้าที่ในการช่วยกลั่นกรองและปรับสภาพหนี้ (Buffer) ของลูกหนี้ เพื่อเป็นการลดภาะหนี้ของสถาบันการเงิน และจะช่วยให้สถาบันการเงินสามารถปล่อยสินเชื่อออกมาได้มากขึ้น ซึ่ง UOB จะเข้ามาเป็นพันธมิตรทางการเงินที่พร้อมสนับสนุนโครงการอย่างเป็นรูปธรรม


สำหรับความร่วมมือครั้งนี้ ไม่จำกัดเฉพาะ BKA เท่านั้น แต่ BAM พร้อมเปิดประตูให้กับพันธมิตรภาคเอกชนรายอื่นๆ ที่ลงนาม MOU กับ BAM เข้าร่วมโครงการ โดย UOB จะพิจารณาการสนับสนุนทางการเงินแบบ case by case ตามความเหมาะสมของแต่ละดีล “นี่คือก้าวสำคัญในการ Re-Activate ทรัพย์ที่หลับใหล ให้กลายเป็นโอกาสที่จับต้องได้” โดย BAM มุ่งมั่นผลักดันให้ทรัพย์ NPA ไม่ใช่เพียง ‘ภาระ’ แต่กลายเป็น ‘ต้นทุนแห่งโอกาส’ ที่นักลงทุนและผู้พัฒนาอสังหาริมทรัพย์สามารถใช้ต่อยอดได้จริง ซึ่งเชื่อมั่นว่าความร่วมมือระหว่าง BAM BKA และ UOB จะช่วยจุดประกายความเป็นไปได้ให้กับวงการอสังหาริมทรัพย์ ซึ่งโครงการนี้นับเป็นอีกหนึ่งตัวอย่างของ New Asset Ecosystem ที่เชื่อมโยงผู้ถือทรัพย์ – ผู้พัฒนา – สถาบันการเงิน เข้าด้วยกันอย่างไร้รอยต่อ โดยเปลี่ยนทรัพย์ที่เคยถูกทิ้งร้าง ให้กลับมามีชีวิต สร้างมูลค่า และหมุนเวียนกลับสู่ระบบเศรษฐกิจอย่างมีประสิทธิภาพ


นายพชร ธนวงศ์เกษม ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท บางกอก แอสเซท อินเตอร์กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) หรือ BKA ผู้นำบริการซื้อ-ขายบ้านมือสองตกแต่งใหม่ เปิดเผยว่า การจับมือกับ BAM และ UOB ครั้งนี้ ทำให้เกิดโมเดลใหม่ที่ครบวงจร โดย BAM ในฐานะผู้ที่มีทรัพย์ NPA คุณภาพหลากหลาย พร้อมสำหรับการพัฒนา ขณะที่ BKA เป็นผู้ให้บริการโดยการนำทรัพย์ NPA มาปรับปรุง-ฟื้นฟู-ต่อยอด-พร้อมอยู่ รวมถึงทำการขายอย่างครบวงจร ด้าน UOB มีบทบาทในการสนับสนุนด้านสินเชื่อ ส่งผลให้ BKA จะอยู่ระหว่างกลางการเชื่อมต่อ "ทรัพย์-การพัฒนา-การเงิน" เพื่อให้บ้านมือสองกลายเป็น "บ้านพร้อมอยู่" ที่มีศักยภาพสูง และเพิ่มพอร์ตบ้านในมือให้ครอบคลุม และหลากหลายพื้นที่มากขึ้น


อีกทั้งยังเป็นการร่วมมือในการสร้างโมเดลใหม่ที่ครบวงจร โดยร่วมกันพัฒนาทรัพย์ที่เคยถูกมองว่า ไม่มีศักยภาพ หรือ ขายยากได้อย่างถูกวิธี ทำให้ทรัพย์รอการขาย สามารถกลับเข้าสู่ระบบเศรษฐกิจได้อีกครั้ง ทำให้ บ้านมือสองไม่ใช่แค่ทางเลือกสำรอง แต่คือโอกาสใหม่ของตลาด และด้วยจุดแข็งของ BKA ที่เป็นผู้เชี่ยวชาญและ มีประสบการณ์ในการปรับปรุงให้บริการบ้านมือสองแบบครบวงจรมาเป็นระยะเวลากว่า 15 ปี ทำให้เข้าใจตลาดและสามารถปรับรูปแบบให้เหมาะสมกับความต้องการของลูกค้าในแต่ละพื้นที่ พร้อมรับประกันผลงานหลังโอน ทำให้ลูกค้ามั่นใจในคุณภาพและมาตรฐานการทำงานของเรา และด้วยสถานะในการเป็นบริษัทมหาชนที่ จดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ฯ จึงให้ความมั่นใจได้ว่า BKA เป็นบริษัทที่มีความน่าเชื่อถือ โปร่งใส และตรวจสอบได้ในทุกขั้นตอน


“การผนึกกำลังร่วมกันในครั้งนี้เปรียบเสมือนการสร้างโมเดลความร่วมมือที่ครบวงจรอย่างแท้จริง จากความแข็งแกร่งของ BAM ในฐานะผู้ที่มีทรัพย์ NPA คุณภาพหลากหลายรอการพัฒนา UOB ทีมีบทบาทสำคัญในการสนับสนุนสินเชื่ออย่างครบวงจร และ BKA ของเราทำหน้าที่เป็น "แกนกลาง" ในการเชื่อมต่อ “ทรัพย์ – การพัฒนา – การเงิน” เข้าด้วยกันอย่างสมบูรณ์แบบ และคาดหวังว่าในอนาคตเราจะสามารถขยายพอร์ตได้เพิ่มสูงขึ้นได้อย่างมีนัยสำคัญ”


นายยุทธชัย เตยะราชกุล กรรมการผู้จัดการ บุคคลธนกิจ ธนาคารยูโอบี ประเทศไทย กล่าว “บ้านในทำเลดี คุณภาพได้ ราคาไม่ไกลเกินฝัน คือสิ่งที่ผู้บริโภคมองหาในยุคนี้ ความร่วมมือครั้งนี้จึงเกิดขึ้นเพื่อตอบโจทย์นั้นอย่างเป็นรูปธรรม บ้านมือสองที่ผ่านการรีโนเวทโดยมืออาชีพภายใต้มาตรฐานที่ธนาคารเชื่อมั่น ช่วยให้ลูกค้าเข้าถึงสินเชื่อได้ง่ายขึ้น พร้อมความมั่นใจในคุณภาพของบ้านที่พร้อมอยู่อาศัยจริง


ยูโอบีออกแบบข้อเสนอสินเชื่อพิเศษ ด้วยอัตราดอกเบี้ยคงที่ 3 ปี และฟรีค่าประเมินหลักประกัน เพื่อให้ลูกค้ามีภาระผ่อนที่คาดการณ์ได้ และสามารถตัดสินใจเป็นเจ้าของบ้านได้ในเวลาที่ใช่ เราเชื่อว่าการปลดล็อกศักยภาพของบ้านมือสอง คืออีกหนึ่งคำตอบสำคัญของตลาดที่อยู่อาศัยในวันนี้”