บ้านปูเตรียมออกและเสนอขายหุ้นกู้ 3 ชุด ดอกเบี้ยคงที่ [3.10 – 3.60]% ต่อปี

บริษัท บ้านปู จำกัด (มหาชน) ผู้นำด้านพลังงานที่หลากหลาย เตรียมออกและเสนอขายหุ้นกู้ให้แก่ประชาชนเป็นการทั่วไป (Public Offering) จำนวน 3 ชุด ผ่าน 7 สถาบันการเงินชั้นนำ โดยหุ้นกู้ได้รับการจัดอันดับเครดิตจากทริสเรทติ้งที่ระดับ “A ” แนวโน้ม “คงที่” เมื่อวันที่ 27 สิงหาคม พ.ศ. 2568
บริษัทฯ ได้ยื่นแบบแสดงรายการข้อมูลเพื่อออกและเสนอขายหุ้นกู้ชนิดระบุชื่อผู้ถือ ประเภทไม่ด้อยสิทธิ ไม่มีประกัน และมีผู้แทนผู้ถือหุ้นกู้ ต่อสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) เรียบร้อยแล้ว โดยมีวัตถุประสงค์ในการออกหุ้นกู้เพื่อชำระคืนหนี้ตราสารหนี้ และ ชำระคืนหนี้เงินกู้ เสนอขายต่อประชาชนเป็นการทั่วไปจำนวน 3 ชุด คือ หุ้นกู้ชุดที่ 1 รุ่นอายุ 5 ปี อัตราผลตอบแทนคงที่ระหว่าง [3.10 – 3.30]% ต่อปี หุ้นกู้ชุดที่ 2 รุ่นอายุ 7 ปี อัตราผลตอบแทนคงที่ระหว่าง [3.20 – 3.40]% ต่อปี และหุ้นกู้ชุดที่ 3 รุ่นอายุ 10 ปี อัตราผลตอบแทนคงที่ระหว่าง [3.40 – 3.60]% ต่อปี ชำระดอกเบี้ยทุก ๆ 6 เดือนตลอดอายุหุ้นกู้ ทั้งนี้ อัตราดอกเบี้ยที่แน่นอนบริษัทจะแจ้งให้ทราบอีกครั้ง โดยคาดว่าจะเสนอขายระหว่างวันที่ 22 – 24 กันยายน พ.ศ. 2568 สำหรับผู้ลงทุนทั่วไปจองซื้อขั้นต่ำ 100000 บาท และทวีคูณครั้งละ 100000 บาท ผ่าน 7 สถาบันการเงิน ประกอบด้วย ธนาคารกรุงเทพ จำกัด (มหาชน) ธนาคารกรุงไทย จำกัด (มหาชน) ธนาคารทหารไทยธนชาต จำกัด (มหาชน) ธนาคารไทยพาณิชย์ จำกัด (มหาชน) ธนาคารซีไอเอ็มบี ไทย จำกัด (มหาชน) ธนาคารยูโอบี จำกัด (มหาชน) และบริษัทหลักทรัพย์เกียรตินาคินภัทร จำกัด (มหาชน)
นายสินนท์ ว่องกุศลกิจ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท บ้านปู จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า “หุ้นกู้ที่เตรียมออกและเสนอขายให้แก่ประชาชนเป็นการทั่วไป จำนวน 3 ชุด เป็นหุ้นกู้ที่ได้รับการจัดอันดับเครดิตจากทริสเรทติ้งที่ระดับ “A ” แนวโน้ม “คงที่” สะท้อนถึงความแข็งแกร่งของบ้านปูในการดำเนินธุรกิจพลังงานที่หลากหลายในภูมิภาคเอเชีย-แปซิฟิก ควบคู่ไปกับกระแสเงินสดที่มั่นคง ทั้งนี้ บ้านปูเดินหน้าขยายการเติบโตตามกลยุทธ์ “Energy Symphonics” โดยมุ่งเน้นบริหารพอร์ตโฟลิโออย่างมีประสิทธิภาพ (Portfolio Optimization) ปรับโครงสร้างการดำเนินงานเพื่อลดต้นทุน (Operations & Cost Excellence) นำเทคโนโลยีดิจิทัลและ AI มาประยุกต์ใช้ในธุรกิจพลังงาน ตลอดจนบริหารโครงสร้างเงินทุน (Rebalanced Capital Structure) ให้สอดคล้องกับเป้าหมายระยะยาว เพื่อสร้างมูลค่าเพิ่มแก่บริษัทฯ และเป็นกลไกสำคัญในการขับเคลื่อนการเปลี่ยนผ่านด้านพลังงานอย่างยั่งยืน”