APO คาดไตรมาส 2 ดีมานน้ำมันปาล์มดิบพุ่ง เดินหน้าธุรกิจผลิตไฟฟ้าเต็มกำลัง

   เมื่อ : 15 พ.ค. 2567

APO เผยทิศทางไตรมาส 2/67 มั่นใจธุรกิจโตเด่น ดีมานด์ต่างประเทศพุ่ง ยอดจำหน่ายน้ำมันปาล์มดิบเพิ่มต่อเนื่อง รับอานิสงส์ราคาวัตถุดิบปรับลดจากปริมาณปาล์มดิบเพิ่มขึ้น เดินหน้าผลิตพลังงานไฟฟ้าจากก๊าซชีวภาพเต็มกำลัง ด้านผลประกอบการไตรมาส 1/67 รายได้รวม 238.64 ล้านบาท

 

นายสิทธิภาส อุดมผลกุล ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เอเชียนน้ำมันปาล์ม จำกัด (มหาชน) หรือAPO เปิดเผยถึงทิศทางธุรกิจไตรมาส 2/2567 จะมีแนวโน้มดีขึ้น จากการจำหน่ายน้ำมันปาล์มดิบและผลิตภัณฑ์ที่เกี่ยวข้องเป็นจำนวนมาก ด้วยปริมาณความต้องการวัตดุดิบเพิ่มสูงขึ้นโดยเฉพาะในตลาดต่างประเทศ อาทิ ประเทศอินเดีย ส่งผลให้ราคาน้ำมันปาล์มดิบในตลาดโลกปรับตัวสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง

 

ขณะเดียวกันบริษัทสามารถบริหารต้นทุนด้านราคาวัตถุดิบ จากการปรับตัวลดลงของราคาปาล์มดิบ โดยมีปัจจัยสนับสนุนจากการเข้าสู่ฤดูฝน ส่งผลให้ปริมาณผลผลิตมีจำนวนเพิ่มขึ้น

 

นอกจากนี้ บริษัทคาดว่าจะสามารถรับรู้รายได้มากขึ้น จากการธุรกิจไฟฟ้าจากก๊าซชีวภาพที่มีการปรับปรุงประสิทธิภาพและเพิ่มเครื่องจักร ส่งผลให้การผลิตไฟฟ้าเต็มประสิทธิภาพและมีจำนวนมาก โดยสามารถจำหน่ายให้กับการไฟฟ้าส่วนภูมิภาค (PEA)

 

ขณะที่การดำเนินงานสร้างระบบ Automation ในการเปลี่ยนจากหม้อนึ่งแนวนอนเป็นแนวตั้งตามแผนการระดมทุน เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพระบบการผลิตน้ำมันปาล์มและระบบที่เกี่ยวข้อง ปัจจุบันอยู่ระหว่างการศึกษาโครงการเพื่อประเมินขั้นตอนการดำเนินงานที่มีคุณภาพทุกในขั้นตอน โดยคาดว่าจะเริ่มติดตั้งในช่วงครึ่งปีหลัง 2567 เป็นต้นไป

 

สำหรับผลประกอบการไตรมาส 1/2567 บริษัทมีรายได้รวม 238.64 ล้านบาท ลดลงจากช่วงเดียวกันปีก่อนที่มีรายได้รวม 348.94 ล้านบาท และขาดทุนสุทธิ 18.74 ล้านบาท จากช่วงเดียวกันปีก่อนที่มีกำไรสุทธิ 6.85 ล้านบาท

 

สาเหตุที่ผลการดำเนินงานปรับตัวลดลง เกิดจากความผันผวนของราคาวัตถุดิบทะลายปาล์มสดจากความกังวลของทะลายปาล์มสดลดลงและความไม่สม่ำเสมอของผลผลิตที่ออกสู่ตลาดอันเป็นผลจากปรากฎการณ์เอลนีโญ โดยผลิตผลทะลายปาล์มสดทั้งประเทศในช่วง 3 เดือนแรก ปี 2567 ลดลง 1121077 ตัน หรือลดลงคิดเป็นร้อยละ 20.89 เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน ซึ่งทำให้ราคาวัตถุทะลายปาล์มสดเกิดความผันผวนและมีการปรับตัวสูงขึ้นมากในบางช่วงเวลาจากความกังวลที่วัตถุดิบจากจะขาดแคลน เหตุการณ์ดังกล่าวถือเป็นช่วงเวลาที่ไม่ปกติเนื่องจากราคาน้ำมันปาล์มดิบและราคาทะลายปาล์มสดจะมีราคาแปรผันตามกัน ส่งผลให้อัตราต้นทุนโดยเฉพาะวัตถุดิบสูงขึ้น ดังนั้นหากปรากฎการณ์เอลนีโญผ่อนคลายลงราคาทะลายปาล์มสดจะปรับตัวเข้าสู่ภาวะปกติ